xs
xsm
sm
md
lg

คุณแม่ฟังทางนี้...ไม่ขาดส่ง ไม่ขาดสิทธิ สปส. ย้ำผู้ประกันตน ม.33 และ ม.39 รับประโยชน์สงเคราะห์บุตรต่อเนื่อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สำนักงานประกันสังคม ได้สร้างหลักประกันในการดำรงชีวิตให้แก่แรงงานทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานเพศหญิงที่เป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม โดยผู้ประกันตนหญิงจะได้รับความคุ้มครองจากสิทธิประโยชน์ประกันสังคมอย่างครอบคลุม ทั้งกรณีคลอดบุตรและกรณีสงเคราะห์บุตรสำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ผู้ประกันตนจะต้องมีคุณสมบัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด  จึงจะได้รับสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตรทุกเดือน

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า ผู้ประกันตนที่ได้รับสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตรจะต้องเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือมาตรา 39 ที่จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน ก่อนเดือนที่มีสิทธิ โดยจะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเหมาจ่ายเดือนละ 800 บาทต่อบุตรหนึ่งคน ต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ยกเว้น บุตรบุญธรรมหรือบุตรซึ่งยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น อายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จำนวนคราวละไม่เกิน 3 คน เว้นแต่ผู้ประกันตนเป็นผู้ทุพพลภาพหรือถึงแก่ความตาย ในขณะที่บุตรมีอายุแรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จะมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนต่อจนอายุ 6 ปีบริบูรณ์

เลขาธิการ สปส. กล่าวอีกว่า ขณะรับเงินสงเคราะห์บุตร ผู้ประกันตนทุกมาตราต้องส่งเงินสมทบทุกเดือน มิฉะนั้นจะทำให้ขาดสิทธิ แต่สามารถยื่นเรื่องขอรับสิทธิประโยชน์ได้อีกครั้ง ดังนั้น เพื่อไม่ให้เป็นการเสียสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตร ผู้ประกันตนจะต้องส่งเงินสมทบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันสำนักงานประกันสังคม จ่ายเงินสงเคราะห์บุตรผ่านบริการพร้อมเพย์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์ทดแทนอย่างรวดเร็ว
 


ทั้งนี้ ในส่วนของขั้นตอนการขอรับเงินสงเคราะห์บุตรนั้น ผู้ประกันตนจะต้องกรอกข้อมูลในแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม (สปส.2-01) พร้อมลงลายมือชื่อและนำมายื่นที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/สาขา หรือส่งคำขอรับประโยชน์ทดแทนทางไปรษณีย์ โดยมีหลักฐานครบถ้วน (กรณีผู้ประกันตนยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตรสำหรับบุตร 3 คน ในคราวเดียวกันสามารถใช้แบบคำขอฯ ชุดเดียวกันได้) จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจหลักฐานและพิจารณาอนุมัติ โดยสำนักงานประกันสังคมจะออกหนังสือแจ้งผลการพิจารณา เพื่อสั่งจ่ายเป็นรายเดือนต่อไป โดยจะโอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์ของผู้ขอรับประโยชน์ทดแทน หรือผ่านบริการพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1506 หรือ Line ID: @ssothai และทางเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th
#Website: www.sso.go.th
#Facebook: สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน
#Instagram: sso_1506
#Twitter: @sso_1506
#YouTube: สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน
#Hotline: 1506 (ตลอด 24 ชั่วโมง)
#LINE: @SSOTHAI
#TikTok: @SSONEWS1506




กำลังโหลดความคิดเห็น