กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เปิดตัวสารคดีชุด “ภารกิจเปลี่ยนโลก” เตือนไทยเสี่ยงน้ำท่วมยาว

สารคดีชุด “ภารกิจเปลี่ยนโลก” ที่ได้รับการสนับสนุนโดยกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เปิดตัวรอบปฐมทัศน์ขึ้นที่ศาลาดนตรีสุริยเทพ มหาวิทยาลัยรังสิต โดยเร็วๆ นี้ สารคดีชุด “ภารกิจเปลี่ยนโลก” จำนวน 9 ตอน จะได้รับการเผยแพร่ผ่าน Facebook กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และ Facebook พื้นที่ปลอดภัย Disaster and Hazard เพื่อแสดงให้เห็นถึงผลกระทบของรหัสแดงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยในปีนี้มุ่งเน้นการประเมินความเสี่ยงน้ำท่วมที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย

สารคดีชุดนี้ผลิตโดยบริษัท คราวน์ สตูดิโอ โปรดักชั่น จำกัดร่วมกับศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต ที่เล่าเรื่องราว รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต และน.ส.ดาริน กำเนิดรัตน์ ผู้สื่อข่าวอิสระ ที่เดินทางร่วมกันไปทั่วประเทศเพื่อประเมินความเสี่ยงน้ำท่วมและค้นหาแนวทางการปรับตัวรับมือ เพื่อสร้างความตระหนักและความเข้าใจกับประชาชนในการรับมือความเสี่ยงน้ำท่วมที่จะรุนแรงมากขึ้นในอนาคต โดยมีคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มาเป็นประธานเปิดงานและกล่าวปาฐกถา และมีเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย และผู้แทนจากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ หรือ UNDP ประจำประเทศไทยมาร่วมกล่าวปาฐกถาด้วย โดยมีการถ่ายทอดสดผ่าน Facebook กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ https://www.facebook.com/ThaiMediaFundOfficial/videos/679420139813087 และ Facebook พื้นที่ปลอดภัย Disaster and Hazard https://www.facebook.com/safezonethailand/videos/1077229486318814

รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า การเดินทางสำรวจน้ำท่วมในปีนี้ร่วมกับทีมสารคดีตลอด 3 เดือน และจากการวิจัยที่ผ่านมาทำให้ประเมินได้ว่า น้ำท่วมใหญ่ที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นสถานการณ์ที่รุนแรงกว่าปี 2554 ในบางพื้นที่แล้ว ขณะที่แบบจำลองร่องฝนในเดือนตุลาคมยังคงมีความรุนแรงมาก ขณะนี้จึงเป็นเวลาทองในการระบายน้ำออกสู่ทะเล แต่ก็จะส่งผลกระทบกับคนท้ายน้ำ

“พายุโนรูจะไม่ใช่พายุลูกสุดท้ายที่เสี่ยงจะเข้าสู่ประเทศไทยในปีนี้ จึงต้องจับตาดูว่าอาจจะมีพายุเกิดขึ้นในทะเลจีนใต้ หลังวันที่ 15 ตุลาคม ขณะที่ร่องฝนยังจะส่งผลให้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในภาคกลาง และตะวันออกเฉียงเหนือไปจนถึงวันที่ 25 ตุลาคมนี้” รศ.ดร.เสรีกล่าว

ขณะที่ ดร.วัฒนา กันบัว ผู้อำนวยการกองพัฒนาอุตุนิยมวิทยา กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่า จะเกิดพายุอีกลูกขึ้นในเทะเลจีนใต้และเคลื่อนที่มาทางปลายแหลมญวน และเสี่ยงที่จะเข้ามาส่งผลกระทบกับประเทศไทยซ้ำอีก แต่อาจจะมีมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาจนทำให้พายุสลายตัวไปก็ได้ จึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

รศ.ดร.เสรี กล่าวทิ้งท้ายว่า จากนี้ไปการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะทำให้ปัญหาน้ำท่วมในไทยจะรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น ในกรุงเทพมหานคร ฝนที่ตกในหนึ่งวันจะตกเพิ่มขึ้น 20% และจำนวนวันที่ฝนตกหนักจะเพิ่มขึ้นถึง 50-70% ซึ่งหมายถึงฝนจะตกมากขึ้นและตกหนักขึ้นกว่าเดิม จนทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมรอระบายอย่างต่อเนื่องในฤดูฝน