xs
xsm
sm
md
lg

"อนุทิน" มั่นใจหลัง "โควิด" ไทยรายได้เพิ่ม เตรียมคน-ของ-ยุทธศาสตร์ ใช้สุขภาพสร้าง ศก.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"อนุทิน" มั่นใจหลัง "โควิด" ไทยมีรายได้เข้ามาอีกมาก เตรียมพร้อมระบบสาธารณสุขทั้ง คน ของ และยุทธศาสตร์ มุ่งใช้สุขภาพสร้างเศรษฐกิจ เป็นศูนย์กลางสุขภาพโลก

เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) บรรยายพิเศษในงานประชุมวิชาการประจำปี 2565 แพทยสภา-ปธพ.ครั้งที่ 9 หัวข้อ “อนาคตระบบสาธารณสุขไทย หลังโควิด 19” โดยมีผู้สำเร็จหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์ สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 9 และ 10 สถาบันพระปกเกล้า เข้าร่วมรับฟังกว่า 300 คน

นายอนุทิน กล่าวว่า สถานการณ์โควิด 19 ทำให้ไทยและทั่วโลกต้องเผชิญความท้าทายหลายด้าน มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และอาจสร้างวิกฤตการณ์ทางสาธารณสุขอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประเทศที่มีระบบสาธารณสุขไม่เข้มแข็งพอจะฟื้นตัวได้ยาก ซึ่งที่ผ่านมาไทยได้รับการจัดอันดับว่ามีความมั่นคงทางสาธารณสุขเป็นอันดับที่ 5 จาก 195 ประเทศทั่วโลก และมีการจัดตั้งสำนักงานเลขาธิการศูนย์อาเซียนด้านการรับมือกับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ (ACPHEED) เป็นการเตรียมพร้อมสำหรับวิกฤตครั้งต่อไปที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

นายอนุทิน กล่าวว่า ด้วยความท้าทายต่างๆ ระบบสาธารณสุข จึงต้องพร้อม ทั้งคน ของ และยุทธศาสตร์ ด้าน “คน” คือ บุคลากรทุกภาคส่วนที่มีความเชื่อมโยงกับการทำงานของ สธ. ทั้งภายในและภายนอกองค์กร เช่น นโยบาย 3 หมอที่มี อสม. เป็นหมอประจำบ้าน ทำงานร่วมกับหมอสาธารณสุข และหมอเวชปฏิบัติครอบครัว สื่อมวลชน ภาคเอกชน นักวิชาการ นักธุรกิจต่างๆ เป็นการขยายขอบเขตการให้บริการ ช่วยลดความแออัดของ รพ. ลดอัตราการป่วยหนัก การครองเตียง และงบประมาณ


ด้าน “ของ” คือการเพิ่มขีดความสามารถของทรัพยากร เช่น สถานที่ที่ใช้สำหรับรักษา, ฐานข้อมูลดิจิทัลทางสุขภาพของประชาชนแบบไร้รอยต่อ, เทคโนโลยี Telemedicine หรือแพทย์ทางไกล ช่วยลดภาระและค่าใช้จ่ายในการเดินทางมา รพ. ซึ่งวิกฤตโควิด 19 นำมาสู่โอกาสทางสาธารณสุข มีการพัฒนาระบบสาธารณสุขของชาติ บริหารงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างการหมุนเวียนที่เป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจด้วย และด้าน “ยุทธศาสตร์” มองว่าบทบาทของสาธารณสุขเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ภายใต้แนวคิด “Health for Wealth” นำความเข้มแข็งทางสาธารณสุขมาสร้าง “ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ” โดยตั้งเป้าอนาคตอันใกล้ให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางสุขภาพของโลก ทั้งการรักษา การผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์ Medical Tourism และศูนย์กลางทางการศึกษาด้านการแพทย์

“หลังโควิด 19 มั่นใจว่าไทยจะมีรายได้เข้ามาอีกมาก ด้วยระบบสาธารณสุขของไทยที่ชาวต่างชาติให้ความเชื่อถือ จากการรักษาพยาบาลด้วยอุปกรณ์เครื่องมือการแพทย์ที่ทันสมัย มีมาตรฐานสูง ต้นทุนการใช้จ่ายคุ้มค่า ซึ่งต้องร่วมมือกันพัฒนาระบบสาธารณสุขไทยให้ยั่งยืน เพราะระบบสาธารณสุขที่ดี จะทำให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ชาวต่างชาติจะเข้ามาประเทศไทย” นายอนุทิน กล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น