xs
xsm
sm
md
lg

งัดข้อมูล WHO โต้กลุ่มหนุน "บุหรี่ไฟฟ้า" ยันทำเด็กติดบุหรี่ธรรมดาเพิ่ม 4 ปีทำเด็กมะกันติด 1.66 ล้านคน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แพทย์งัดข้อมูล "WHO" โต้กลุ่มหนุน "บุหรี่ไฟฟ้า" ยันทำเด็กเสี่ยงติดบุหรี่ธรรมดาเพิ่มจริง งานวิจัยใหม่มะกันชี้บุหรี่ไฟฟ้าระบาด 4 ปีทำเด็กสูบบุหรี่ธรรมดาเพิ่ม 1.66 ล้านคน อัตราสูบบุหรี่ธรรมดาในเด็กและเยาวชนลดลงน้อยกว่าช่วงก่อนหน้าที่บุหรี่ไฟฟ้าจะระบาด

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. รศ.พญ.เริงฤดี ปธานวนิช ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี กล่าวว่า ตามที่ฝ่ายสนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้าอ้างว่า ไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือได้มากพอว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นประตูไปสู่การสูบบุหรี่และการใช้บุหรี่ไฟฟ้ายังมีอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่อย่างมากนั้น องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้สรุปในรายงาน WHO Report On The Global Tobacco Epidemic 2021 ว่า เด็กและเยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ามีแนวโน้มจะสูบบุหรี่ธรรมดาเพิ่มขึ้น 2 เท่า และยังมีอีกหลายองค์กรที่ทำงานด้านสุขภาพทั่วโลก สรุปตรงกันในประเด็นนี้ เช่น มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย กระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลีย สรุปว่า เด็กและเยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ามีแนวโน้มจะสูบบุหรี่ธรรมดาเพิ่มขึ้น 3 เท่า องค์กรแพทย์เพื่อแคนาดาปลอดบุหรี่ สรุปว่า เด็กและเยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ามีแนวโน้มจะสูบบุหรี่ธรรมดาเพิ่มขึ้น 3-4 เท่า คณะกรรมาธิการยุโรปด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อมและโรคอุบัติใหม่ สมาคมกุมารแพทย์แห่งยุโรป สมาคมแพทย์โรคระบบทางเดินหายใจยุโรป สหพันธ์โรควัณโรคและโรคปอดนานาชาติ ต่างเห็นว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กจะนำไปสู่การเสพติดนิโคตินระยะยาว ขณะที่งานวิจัยที่ใช้ข้อมูลของไทย ได้สรุปว่า เด็กที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ามีแนวโน้มสูบบุหรี่ธรรมดาเพิ่ม 5 เท่า

"สิ่งที่น่ากังวลเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าคือ ผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน มีงานวิจัยที่ยืนยันว่า เด็ก 3 ใน 4 ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ใช่เด็กกลุ่มเสี่ยงที่จะสูบบุหรี่ธรรมดา แสดงให้เห็นว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นประตูนำเด็กที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงเข้ามาสู่การสูบบุหรี่และเสพติดนิโคติน" รศ.พญ.เริงฤดีกล่าว

รศ.พญ.เริงฤดีกล่าวว่า กลุ่มสนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้ามักอ้างว่า หากบุหรี่ไฟฟ้าทำให้เด็กสูบบุหรี่ธรรมดาเพิ่มขึ้นจริง ทำไมอัตราสูบบุหรี่ธรรมดาในต่างประเทศ เช่น อังกฤษ สหรัฐฯ ไม่เพิ่มขึ้น ข้อเท็จจริงคือ อัตราสูบบุหรี่ในระดับประชากรมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลายด้าน โดยเฉพาะมาตรการควบคุมยาสูบ เช่น ภาษียาสูบ เขตปลอดบุหรี่ ห้ามโฆษณาบุหรี่ ส่วนการสูบบุหรี่ไฟฟ้าส่งผลให้เด็กและเยาวชนสูบบุหรี่เพิ่มขึ้นเป็นผลในระดับบุคคล จึงไม่อาจนำไปเปรียบเทียบกับผลรวมระดับประชากรได้ เพราะต้องพิจารณาร่วมกับมาตรการอื่นที่จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมการสูบบุหรี่ในระดับประชากรด้วย แต่มีข้อสังเกตว่า อัตราการลดลงของการสูบบุหรี่ธรรมดาของเด็กและเยาวชนในต่างประเทศ มีมานานตั้งแต่ก่อนมีบุหรี่ไฟฟ้า แต่หลังจากมีการระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า อัตราการสูบบุหรี่ธรรมดาในเด็กกลับลดลงน้อยกว่าก่อนที่จะมีบุหรี่ไฟฟ้าด้วยซ้ำ


ด้าน ผศ.นพ.วิชช์ เกษมทรัพย์ ผอ.ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) กล่าวว่า ประเด็นนี้มีนักวิจัยจากสหรัฐฯ ได้ศึกษาพบว่า ตั้งแต่มีการระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า อัตราการสูบบุหรี่ธรรมดาในเด็กและเยาวชนลดลงน้อยกว่าก่อนการระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า โดยอัตราการลดลงของการสูบบุหรี่ธรรมดาในเด็กและเยาวชนก่อนมีบุหรี่ไฟฟ้า คือ ปี 2545-2556 ลดลงเฉลี่ยปีละ 0.75% ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าเริ่มระบาด ปี 2558-2562 อัตราการสูบบุหรี่ธรรมดาในเด็กและเยาวชนลดลงเพียงปีละ 0.37% กล่าวได้ว่าการระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในสหรัฐฯ 4 ปี ทำให้เด็กและเยาวชนสูบบุหรี่ธรรมดาเพิ่มถึง 1.66 ล้านคน สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าบุหรี่ไฟฟ้าทำให้เด็กและเยาวชนติดบุหรี่เพิ่มขึ้นจริง

“กลุ่มสนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้าอ้างว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดาอย่างมากนั้น เป็นเพียงคำกล่าวที่เลื่อนลอย ไม่มีหลักฐานยืนยัน แม้แต่องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา ยังเคยออกมาเตือนบริษัทบุหรี่ไม่ให้นำไปอ้างว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยกว่า ซึ่งปัจจุบันมีงานวิจัยใหม่ ๆ ออกมาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เกี่ยวกับอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าต่อสุขภาพ เช่น เพิ่มความเสี่ยงเกิดโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน โรคหลอดเลือดสมอง โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหอบหืด และโรคมะเร็ง ที่สำคัญ บุหรี่ไฟฟ้าส่งผลกระทบอย่างมากต่อเด็กและเยาวชนที่สมองยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลง นอกจากนี้ควันบุหรี่ไฟฟ้ามือสองมีผลต่อพัฒนาการด้านสมองของทารกในครรภ์อีกด้วย” ผศ.นพ.วิชช์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น