xs
xsm
sm
md
lg

ขอ 9 รพ.เอกชนเลิกสัญญา "บัตรทอง" ดูแลผู้ป่วย 4 กลุ่มถึงสิ้นปี ส่วนนัดผ่าตัด-รักษามะเร็งปี 66 ให้ส่งข้อมูลใน 31 ต.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สปสช.หารือ 9 รพ.เอกชนเลิกสัญญาบัตรทอง ให้ดูแลผู้ป่วย 4 กลุ่มช่วงเปลี่ยนผ่านต่อเนื่อง 3 เดือนจนถึง 31 ธ.ค.นี้ หากมีนัดผ่าตัดช่วงปี 66 หรือรักษามะเร็งยังไม่ครบคอร์สภายในสิ้นปี ให้ส่งข้อมูลภายใน 31 ต.ค. เพื่อหาหน่วยบริการรักษาใหม่

เมื่อวันที่ 20 ก.ย. พญ.ลลิตยา กองคำ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ประชุมร่วมกับตัวแทน รพ.เอกชน 9 แห่ง ได้แก่ รพ.มเหสักข์ รพ.บางนา 1 รพ.ประชาพัฒน์ รพ.นวมินทร์ รพ.เพชรเวช รพ.ผู้สูงอายุกล้วยน้ำไท 2 รพ.แพทย์ปัญญา รพ.บางมด และ รพ.กล้วยน้ำไท เพื่อเตรียมความพร้อมกรณีบอกเลิกสัญญาหน่วยบริการบัตรทองที่จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2565

พญ.ลลิตยากล่าวว่า การหารือ สปสช.ได้ขอความร่วมมือใน 3 ประเด็น คือ 1.บริการประชาชนที่ได้รับผลกระทบช่วงเปลี่ยนผ่าน ยขอให้ดูแลผู้ป่วยที่จำเป็นต้องรับบริการในช่วง 3 เดือนก่อน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. - 31 ธ.ค. 2565 ภายใต้ระเบียบ ข้อบังคับ และกฎหมายของ สปสช. ที่จะดำเนินการได้ และจัดเตรียมเวชระเบียน ประวัติการรักษาเพื่อใช้ในส่งต่อให้การรักษาต่อเนื่อง 2.ขอสนับสนุนจุดที่ตั้งประชาสัมพันธ์ เพื่อชี้แจงข้อมูลให้ประชาชนที่มารับบริการทราบ และ 3.ประชาสัมพันธ์และสื่อสารทำความเข้าใจแนะนำการรับบริการของประชาชน ซึ่งทั้ง 9 แห่งให้ความร่วมมือด้วยดี ในการดูแลผู้ป่วยบัตรทองให้ได้รับการรักษาต่อเนื่อง โดยช่วง 3 เดือนนี้ สปสช.จะเร่งสื่อสารกับประชาชน จัดหาหน่วยบริการใหม่รองรับอย่างทั่วถึง ที่ผ่านมาได้ประสานไปยัง กทม.แล้ว เพื่อขอความร่วมมือหน่วยบริการมาร่วมดูแล ก็ได้รับการตอบรับจากผู้ว่าฯ กทม. ด้วยดี
ทพ.วิรัตน์ เอื้องพูลสวัสดิ์ ผอ.สปสช.เขต 13 กทม. กล่าวว่า การให้บริการผู้ป่วยบัตรทองต่อเนื่องจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2565 มีดังนี้ 1.กลุ่มผู้ป่วยในที่เข้าแอทมิดภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2565 ขอให้ รพ.รับรักษาผู้ป่วยจนสิ้นสุดการรักษา เบิกจ่ายชดเชยค่าบริการกรณีผู้ป่วยในจาก สปสช. ได้ 2.ผู้ป่วยกลุ่มที่ต้องรักษาเร่งด่วนหรือมีนัดการรักษา เช่น นัดผ่าตัด นัดคลอด นัดรังสีรักษา เคมีบำบัด นัดอัลตราซาวนด์ ตรวจซีทีสแกน MRI เป็นต้น

3.ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ป่วยรักษาต่อเนื่อง ขอให้ผู้ป่วยไปตามนัดก่อน จากนั้นขอให้ รพ.จัดเตรียมประวัติการรักษาให้ผู้ป่วย แนะนำการไปรักษาต่อ กรณีที่เข้ารับบริการหน่วยบริการปฐมภูมิได้ แนะนำให้เข้ารับบริการที่คลินิกชุมชนอบอุ่น คลินิกเวชกรรม และศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้านที่ไหนก็ได้ และ 4.กรณีผู้ป่วยวัณโรค และเอชไอวี/เอดส์ ให้ไปตามนัดก่อนเช่นกัน จากนั้นให้ รพ.เตรียมประวัติการรักษาให้ผู้ป่วย แนะนำไปรักษาต่อเนื่อง โดยผู้ป่วยวัณโรคไปรักษาต่อเนื่องที่ศูนย์บริการสาธารณสุขทุกแห่ง ผู้ป่วยเอชไอวี/เอดส์ รับบริการที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 43 แห่ง รพ.รัฐทุกแห่ง และ สปสช.เตรียมประสาน ศูนย์การแพทย์บางรัก สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง และพริบตา แทนเจอรีน สหคลินิก

สำหรับผู้ป่วยที่มีนัดผ่าตัด เช่น ผ่าตัดตาต้อกระจก ผ่าตัดเข่า ผ่าตัดด้านสูตินรี และผ่าตัดอื่นๆ ที่แพทย์วินิจฉัยว่าจำเป็นต้องให้บริการ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2566 เป็นต้นไป รวมถึงผู้ป่วยรักษาด้วยเคมีบำบัด รังสีรักษาที่ยังไม่สิ้นสุดการรักษาภายใน 31 ธ.ค. 2565 ให้ส่งข้อมูลผู้ป่วยให้กับ สปสช. ภายในวันที่ 31 ต.ค.2565 เพื่อประสานจัดหาหน่วยบริการรักษา พร้อมขอให้แจ้งผู้ป่วยล่วงหน้าหรือแนะนำการไปรับการรักษาต่อ


กำลังโหลดความคิดเห็น