18 หน่วยงาน อว.จับมือวิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ ระดมบุคลากรและองค์ความรู้จากมหาวิทยาลัยมาพัฒนาอาชีวศึกษาพร้อมพัฒนาโรงเรียนสาธิตอาชีวศึกษา เน้นนำเอาคุณธรรมไปประกอบกับวิชาชีพ ขณะเดียวกัน มทร. 9 แห่งร่วมกับกรมสุขภาพจิต จัดทำโครงการ “คู่เครือข่ายดูแลจิตใจ ก้าวสู่คนไทยคุณภาพ” แก้ปัญหาสุขภาพจิตและพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักศึกษาทุกระดับ
เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว. การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่าง 18 หน่วยงานในสังกัด อว. กับวิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ และพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) 9 แห่ง กับกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข โดยมี ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัด อว. พร้อมผู้บริหาร อว. พ.ญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานบริหารภาวนาโพธิคุณ เข้าร่วม ที่ห้องแถลงข่าวชั้น 1 อาคารพระจอมเกล้า สำนักงานปลัด อว.
ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าวว่า การลงนามครั้งนี้เป็นความร่วมมือครั้งสำคัญของ อว.กับหน่วยงานภายนอกใน 2 เรื่อง เรื่องแรก คือ การที่มหาวิทยาลัย สถาบันวิจัยของ อว. ร่วมมือกับวิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ ในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น ผ่านกระบวนการ อว.ส่วนหน้า และยังเป็นการสนับสนุนการปฏิรูปการศึกษาในระดับอาชีวศึกษา โดย อว. สนับสนุนความรู้ ขณะเดียวกัน เป็นการทดลองการพัฒนาโรงเรียนสาธิตอาชีวศึกษา ใช้วิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ เป็นสถานที่ทดลอง
ส่วนเรื่องที่สอง มทร. 9 แห่งร่วมกับกรมสุขภาพจิตจัดทำโครงการ “คู่เครือข่ายดูแลจิตใจ ก้าวสู่คนไทยคุณภาพ” เพื่อดูแลสุขภาพจิตของนักศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง เพราะโรคทางจิตใจในสมัยนี้รุนแรงและส่งผลกระทบไม่แพ้โรคทางกาย ความร่วมมือนี้จะนำไปสู่การแก้ปัญหาสุขภาพจิตและพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักศึกษาทุกระดับ
“อว.ถึงจะเป็นกระทรวงใหญ่มีหน่วยงานเกือบ 200 แห่ง แต่ก็พร้อมทำงานเป็นทีม ไม่ใช่ต่างคนต่างอยู่ และทำงานได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดและมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญ ยังพร้อมร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก ทั้งภาครัฐและเอกชน อว.สร้างพลังจากการร่วมงานกับคนอื่น เช่น การร่วมมือกับภาคธุรกิจอย่างเครือเจริญโภคภัณฑ์ เอางานวิจัยอยู่อกจากหอคอยงาช้าง ออกจากหิ้ง ไปสู่บริษัท ธุรกิจ การค้า หรือร่วมมือกับบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด จัดทำห้องแสดงอารยธรรมประวัติศาสตร์ไทย เป็น Thai Gallery ที่ British Museum ซึ่งเป็นการนำประเทศไทยไปสู่สายตาชาวโลก และยังร่วมมือกับ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ทำวิจัยแบตเตอรี่และพลังงานสะอาด ขณะที่ ความร่วมมือกับต่างประเทศ อว. ได้คิดใหม่ ทำใหม่ เช่น พัฒนาความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ด้านอุดมศึกษาระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งลาวและกัมพูชา เพื่อพัฒนาบุคลากรของอาเซียนร่วมกัน โดยการให้ทุนการศึกษากับเยาวชนและบุคลากรของทั้ง 2 ประเทศ เป็นต้น” รมว.อว.กล่าว
ด้าน ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ กล่าวว่า อว.มีหน่วยงานที่หลากหลายภารกิจและรูปแบบการดำเนินงาน อาทิ หน่วยงานวิจัย องค์การมหาชน และหน่วยงานด้านอุดมศึกษา ซึ่งความหลากหลายดังกล่าวถือเป็นข้อดี ทำให้เกิดการบูรณาการ เป็นพลังความร่วมมือที่ทำให้เกิดการขับเคลื่อนงานตามยุทธศาสตร์ชาติ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้มีการประสานความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด สนับสนุนการใช้ทรัพยากรร่วมกัน ขยายผลและต่อยอดงานวิจัยไปใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม ลดต้นทุนที่ซ้ำซ้อนด้วยวิธีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสร้างศักยภาพบุคลากรบัณฑิตของประเทศ โดยการแลกเปลี่ยนหรือถ่ายทอดองค์ความรู้ทางวิชาการอย่างยั่งยืน ในขณะที่ความร่วมมือระหว่าง มทร. 9 แห่ง กับกรมสุขภาพจิตในโครงการเครือข่ายดูแลจิตใจ ก้าวสู่คนไทยคุณภาพ จะทำให้นักศึกษาซึ่งเป็นเยาวชนได้พัฒนาศักยภาพเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของประเทศ ทั้งด้านทักษะทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ควบคู่กับการสร้างสุขภาวะในการดำเนินชีวิต