กรมอนามัย เตือนจัดงานวิ่งตามมาตรฐานความปลอดภัย หลังช่วงนี้เริ่มกลับมาจัดงานวิ่งมาราธอน ย้ำมีหน่วยแพทย์ พยาบาลประจำการแข่งขัน ส่วนนักวิ่งต้องเตรียมพร้อมร่างกาย ทำได้ 5 วิธี พ่วงเข้มป้องกันโควิด
เมื่อวันที่ 10 ก.ย. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ช่วงนี้ผู้จัดงานวิ่งมาราธอน เริ่มกลับมาจัดงานอีกครั้ง ซึ่งการวิ่งมาราธอนเป็นกิจกรรมทางกาย ที่หากร่างกายไม่พร้อมจะส่งผลกระทบต่อระบบไหลเวียนโลหิตและหายใจ ระบบกล้ามเนื้อ จะมีอาการหน้ามืด หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก เจ็บกล้ามเนื้อ รวมถึงหมดสติและหัวใจหยุดเต้นได้ นักวิ่งจึงควรปฏิบัติ ดังนี้ 1.เตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนแข่ง ผ่านการฝึกซ้อมอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ร่างกายมีการปรับตัวให้พร้อมกับกิจกรรมทางกายที่มีระยะเวลานาน 2.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7 - 9 ชั่วโมงทุกวัน 3.เลือกกินอาหารให้ถูกหลักโภชนาการ เน้นกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น ขนมปัง กล้วย ไม่ดื่มแอลฮอล์ และดื่มน้ำให้เพียงพอ 4.การวิ่งแต่ละครั้งควรมีการอบอุ่นร่างกายเพื่อให้เลือดสูบฉีดไหลเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อและส่วนต่างๆ ของร่างกาย และก่อนหยุดออกกำลังกายให้ชะลอความเร็ว cool down ด้วยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อทุกครั้ง เพื่อลดอาการปวดเมื่อยและบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ และ 5.ขณะวิ่ง ให้สังเกตร่างกายตนเองว่ามีอาการผิดปกติหรือไม่ เช่น ความเหนื่อย ความอ่อนล้า หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นต้น หากไม่มั่นใจให้รีบขอความช่วยเหลือยังจุดปฐมพยาบาลทันที
นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า สหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ (IAFF) ได้จัดทำมาตรฐานการจัดกิจกรรมวิ่งประเภทถนน โดยเน้นที่การออกแบบการแข่งขัน ทั้งการวางเส้นทาง ความปลอดภัย จัดให้มีน้ำดื่มและอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวกกับผู้เข้าร่วมการแข่งขัน สำหรับการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนนั้นจะต้องมีหน่วยแพทย์ รถพยาบาล ประจำตลอดการแข่งขัน รวมถึงจุดพยาบาลตลอดเส้นทาง โดยเฉพาะช่วงกลางและปลายของการวิ่ง ซึ่งมีความเสี่ยงสูงว่าอาจมีผู้บาดเจ็บ เมื่อมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทีมแพทย์ฉุกเฉินจะสามารถเข้าไปช่วยเหลือและปฐมพยาบาลได้อย่างทันท่วงที เช่น การปั๊มหัวใจด้วยวิธีซีพีอาร์ (CPR) เป็นต้น โดยกำหนดให้มีหน่วยแพทย์ในการแข่งเพื่อให้ได้มาตรฐานการจัดกิจกรรม นอกจากนี้ ขอให้ผู้จัดงาน และนักวิ่ง เข้มงวดในการป้องกันตนเองจากโควิด 19 ด้วยหลัก UP (Universal Prevention) อย่างต่อเนื่องด้วย