"อนุทิน" มอบโล่เชิดชูเกียรติคณะผู้เชี่ยวชาญพิจารณาอาการไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีนโควิด ขอบคุณที่ช่วยเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์ สร้างเชื่อมั่นประสิทธิภาพและความปลอดภัย ช่วยบรรลุเป้าหมายกว่า 142 ล้านเข็ม
เมื่อวันที่ 7 ก.ย. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังมอบโล่และเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติ แก่คณะผู้เชี่ยวชาญอาการไม่พึงประสงค์ภายหลังได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค (AEFI) จากวัคซีนโควิด 19 ว่า ประเทศไทยรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด 19 แก่ประชาชนในประเทศ เพื่อป้องกันการระบาดและลดความรุนแรงของโรค โดย สธ.ได้แต่งตั้งอาจารย์แพทย์และผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขาเป็นคณะผู้เชี่ยวชาญพิจารณาเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีนโควิด 19 ทั้งระดับส่วนกลางและเขต เพื่อเฝ้าระวังเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีน โดยข้อมูลถึงวันที่ 5 ก.ย.2565 ประเทศไทยฉีดวัคซีนโควิด 19 แล้ว 142,891,943 โดส มีรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ร้ายแรง 7,597 เหตุการณ์ มีการประชุมเพื่อพิจารณา 97 ครั้ง พบว่ากว่าร้อยละ 60 เป็นเหตุการณ์ร่วมที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน และร้อยละ 0.8 เกี่ยวข้องกับวัคซีน ส่วนใหญ่เป็นการแพ้ที่ไม่รุนแรง
ทั้งนี้ เพื่อขอบคุณและเชิดชูเกียรติ สธ.จึงได้มอบโล่และเกียรติบัตรแก่คณะผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข ทั้งสังกัด สธ. มหาวิทยาลัย และคณะทำงานจากทั่วประเทศ ได้แก่ เขตสุขภาพที่ 1 – 12 สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 – 12 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด รพ. ทีมเลขานุการระดับส่วนกลางและเขต รวมถึงผู้มีส่วนร่วม รวม 505 คน ที่ร่วมติดตามข้อมูล พิจารณาและให้ข้อเสนอแนะแก่ผู้ป่วยจากเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ภายหลังได้รับวัคซีน และจัดการเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์อย่างถูกต้องเหมาะสมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทำให้ประเทศไทยสามารถบรรลุผลเป้าหมายการฉีดวัคซีนได้กว่าร้อยละ 80 ของประชากร ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการเข้ารับการฉีดวัคซีนว่ามีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัย ช่วยลดการป่วยหนักและเสียชีวิตจากโรคโควิด 19 ให้กับประชาชนได้จำนวนมาก ทั้งนี้คณะผู้เชี่ยวชาญ ยังคงทำงานกันต่อไปเพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจต่อการฉีดวัคซีนโควิด 19 ในประเทศไทย