กรมอนามัย แนะวิธีฟื้นฟูบ้าน ร้านค้า กำจัดเชื้อรา หลังน้ำท่วมลด ทำได้ใน 3 ขั้นตอน ย้ำต้องสวมหน้ากาก ถุงมือยาง รองเท้าบูธทุกครั้ง ห้ามเปิดพัดลม แอร์ ยิ่งทำเชื้อราแพร่กระจาย
เมื่อวันที่ 20 ส.ค. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากอิทธิพลของพายุมู่หลานส่งผลให้หลายพื้นที่ได้รับความเสียหายผลจากน้ำกัดเซาะและน้ำท่วมขัง ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมกลับคืนสู่สภาวะปกติ จึงควรเร่งทำความสะอาดบ้านเรือนและสถานที่สาธารณะต่างๆ รวมถึงสถานที่ผลิตและจำหน่ายอาหาร เช่น ตลาดสด ร้านอาหาร มินิมาร์ท เป็นต้น ที่ได้รับผลกระทบ เพราะช่วงน้ำท่วมจะพัดพาสิ่งสกปรกมาจากทุกสารทิศ ทั้งโคลนตม ขยะ วัสดุ สิ่งของต่างๆ ส่งผลให้เกิดการหมักหมม อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการระบาดของโรคได้
"การฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและที่พักอาศัย ด้วยการรื้อและล้างให้สะอาดปลอดภัยตามหลักสุขาภิบาล เพราะหากปล่อยไว้นาน จะกลายเป็นแหล่งสะสมและแพร่กระจายของเชื้อโรค โดยเฉพาะเชื้อราที่พบได้หลังน้ำลดตามบริเวณพื้น ฝาผนัง วอลล์เปเปอร์ เฟอร์นิเจอร์ ที่นอน หมอน พรม ตู้แช่อาหาร ตู้เย็น จำเป็นต้องรื้อและล้างทำความสะอาดอย่างเร่งด่วน ส่วนตู้ไม้ที่ชำรุดเสียหายไม่สามารถใช้งานได้อีก ควรรวบรวมไว้ในแหล่งเดียวกัน เพื่อรอการกำจัดจากหน่วยงานราชการต่อไป" นพ.สุวรรณชัย กล่าว
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ก่อนเข้าไปในบ้านต้องสำรวจตรวจสอบความเสียหาย และมั่นใจว่าโครงสร้างของบ้านมีความมั่นคงแข็งแรง เมื่อเข้าไปแล้วให้เปิดประตู หน้าต่าง เพื่อให้อากาศถ่ายเท ลดกลิ่นเหม็นอับ ห้ามเปิดพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศขณะทำความสะอาดบ้าน หรือขณะกำจัดเชื้อรา เพราะจะทำให้สปอร์เชื้อราฟุ้งกระจาย นอกจากนี้ ควรทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในเครื่องใช้ เครื่องเรือน เครื่องนอน และเฟอร์นิเจอร์ เช่น ฟูกที่นอน หมอน พรม เป็นประจำ ด้วยการนำไปตากแดด ส่วนวอลล์เปเปอร์หรือฉนวนกันความร้อนที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก ต้องนำไปทิ้งในถุงที่ปิดมิดชิดโดยทันที เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของเชื้อรา
“การทำความสะอาดต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันร่างกาย สวมหน้ากาก ถุงมือยาง และรองเท้าบูททุกครั้ง การจัดการเชื้อราในบ้านทำได้ 3 ขั้นตอน คือ 1.พื้นผิววัสดุที่พบเชื้อรา ให้ใช้กระดาษทิชชูแผ่นหนาและขนาดใหญ่ หรือกระดาษหนังสือพิมพ์พรมน้ำให้เปียกเล็กน้อย เช็ดพื้นผิวไปในทางเดียว แล้วทิ้งลงในถังขยะที่ปิดมิดชิด 2.ใช้กระดาษทิชชูแผ่นหนาและขนาดใหญ่ หรือกระดาษหนังสือพิมพ์ชุบน้ำผสมสบู่หรือน้ำยาล้างจาน เช็ดซ้ำในจุดที่มีเชื้อราอีกครั้ง และ 3.ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อรา เช่น น้ำส้มสายชู 5–7% หรือแอลกอฮอล์เข้มข้น 60 – 90% เช็ดทำความสะอาด โดยต้องหยุดพักสูดอากาศบริสุทธิ์ทุก 1 – 2 ชั่วโมง อาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดหลังจากล้างบ้านและกำจัดเชื้อรา” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว