กรมอนามัย เตือนอย่าเลียนแบบสาวจีนสั่งไข่พยาธิตืดวัวมากินหวังลดหุ่น ย้ำไม่ช่วย แถมเสี่ยงอันตรายอาจถึงตายได้
เมื่อวันที่ 11 ส.ค. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงกรณีเพจหมอแล็บแพนด้าโพสต์เกี่ยวกับผู้ป่วยสาวชาวจีนรายหนึ่งอยากผอม จึงสั่งไข่พยาธิตืดวัวมากิน ว่า ถือเป็นการกระทำที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และไม่ควรเลียนแบบหรือทำตาม เนื่องจากพยาธิตัวตืด ที่เรียกว่า ซิสติเซอร์โคซิส (cysticercosis) เป็นพยาธิที่พบได้ในเนื้อหมู เนื้อวัว ซึ่งมีตัวอ่อนพยาธิอยู่ข้างใน คนทั่วไปเรียกเม็ดสาคู โดยกรณีสาวชาวจีนเลือกใช้วิธีกินไข่พยาธิเพื่อลดน้ำหนัก เพราะเชื่อว่าพยาธิจะไปฟักตัวในกระเพาะอาหาร แล้วแย่งอาหารในลำไส้ ช่วยให้ร่างกายซูบซีด น้ำหนักลดลง จนมีรูปร่างผอมเพรียวได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องอดอาหารหรือออกกำลังกาย
"การกินไข่พยาธิลดน้ำหนัก ไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือมารองรับ แต่หากร่างกายติดเชื้อพยาธิตัวตืดในลำไส้ จะมีอาการคลื่นไส้ เหนื่อยล้า อ่อนแอ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ท้องเสีย ผอมลง ส่วนอันตรายจากพยาธิตัวตืดตัวเต็มวัย คือ ขาดสารอาหารเนื่องจากพยาธิแย่งอาหาร ลำไส้อุดตัน เมื่อพยาธิไชทะลุลำไส้ทำให้เกิดเยื่อบุช่องท้องอักเสบ ถ้ามีตัวอ่อนพยาธิตืดหมูในกล้ามเนื้อ จะทำให้ปวดเมื่อย พยาธิตัวอ่อนที่เข้าไปในตาหรือสมอง อาจทำให้ตาบอดหรือเกิดอาการทางสมอง เช่น ปวดศีรษะ ชัก เป็นอัมพาต และเสียชีวิตได้" นพ.สุวรรณชัยกล่าว
นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักจึงควรเลือกวิธีการที่เหมาะสม ด้วยการปรับ 4 พฤติกรรม คือ การกิน กิจกรรมทางกาย การนอน และการดูแลสุขภาพข่องปาก โดยประเมินตนเองก่อนว่า ขณะนี้มีภาวะโภชนาการหรือรูปร่างเป็นอย่างไร ด้วยการวัดเส้นรอบเอว หาค่าดัชนีมวลกาย ส่วนการกินอาหาร เริ่มจากมื้อเช้าเป็นมื้อสำคัญ ควรได้อาหารที่มีคุณภาพและหลากหลายปริมาณพอเหมาะ ตามหลักโภชนาการ เนื่องจากร่างกายต้องการพลังงานไปใช้ ส่วนมื้อเที่ยงไม่ควรรวบกับมื้อเช้า จนทำให้กินปริมาณมาก สำหรับมื้อเย็นที่เราใช้พลังงานน้อย ควรหลีกเลี่ยงกินหนัก ให้จัดจานอาหารเพื่อสุขภาพ 2:1:1 คือ ผัก 2 ส่วน (2 ทัพพี) เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ 1 ส่วน (2-3 ช้อนกินข้าว) และข้าว แป้ง 1 ส่วน (2-3 ทัพพี) ให้เลือกอาหารที่ใช้วิธีการนึ่ง ต้ม อบ ย่าง แทนผัดหรือทอด พร้อมผลไม้รสไม่หวานจัด 1 จานเล็ก ควบคู่กับการออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยให้มีรูปร่างดี สุขภาพดี และไม่เสี่ยงอันตราย