xs
xsm
sm
md
lg

แนะญาติเหยื่อ "เมาน์เทนบี" ฟ้องกราวรูด ห่วงเยียวยาไม่เป็นธรรม ชงผู้ว่าฯ ปิดยาว 5 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วงเสนานาตีแสกหน้า ตร. อ้างไม่รู้มีผับเมาน์เทนบี ชงผู้ว่าฯ ปิดยาว 5 ปี แนะผู้เสียหายฟ้องกราวรูดตั้งแต่ผู้ว่าฯ ลงมา ฐานละเลยทำเกิดโศกนาฏกรรม 15 ศพ ส่วนเยียวยาต้องเป็นธรรม รายละ 5 หมื่นบาทน้อยเกินไป เผยเคเดอร์จ่ายรายละ 2 แสนบาท ต้องคิดตามอัตราเงินเฟ้อด้วย แนะออก กม.ตั้งกองทุนเยียวยากรณีเกิดอุบัติภัย

เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่โรงแรมแมนดาริน สามย่าน กทม. ในวงเสวนา “จากซานติก้าผับถึงเมาน์เทนบี...แก้อย่างไรให้ตรงจุด” พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า กรณีผับเมาน์เทนบี เป็นสถานบันเทิงเถื่อน ชาวบ้านรู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง ถ้าตำรวจบอกว่าไม่รู้ถือว่าไม่มีสมรรถภาพ คาดว่ามีความเกี่ยวข้องกับการรับเงิน และเมาน์เทนบีไม่ใช่ที่สุดท้าย แต่มีสถานบันเทิงแบบนี้อยู่ทั่วประเทศ หากไฟไม่ไหม้ก็คงไม่มีใครรู้ ดังนั้นการแก้ไขเฉพาะหน้าคือการเอาผิดผู้การตำรวจที่หูหนวกตาบอด ส่วนระยะยาวต้องปฏิรูปโครงสร้างการบริหารงานราชการภูมิภาค ตำรวจต้องขึ้นอยู่กับผู้ว่าฯ ที่ต้องควบคุมสั่งงานได้ ลงโทษได้ เพราะที่ผ่านมาผู้ว่าฯ นายอำเภอ อนุญาตให้เปิดร้านต่างๆ แต่การตรวจสอบว่ามีการดัดแปลง หรือทำผิดกฎหมายหรือไม่ เป็นหน้าที่ตำรวจ

ว่าที่ร้อยตรีสมชาย  อามีน นายกสมาคมนักกฎหมายคุ้มครองสิทธิและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ชลบุรีอนุญาตให้เปิดสถานบันเทิงลักษณะนี้เพียง 2 อำเภอ คือพัทยา และบางละมุงเท่านั้น ดังนั้น เมาน์เทนบีที่ อ.สัตหีบจึงเป็นพื้นที่ห้ามเปิด และมีการดัดแปลงการประกอบกิจการ ที่เป็นเช่นนี้เพราะในพื้นที่มีหลายหน่วยงานที่ดูแล แต่ขาดการบูรณาการ บังคับใช้กฎหมายหย่อนยานก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมซ้ำซาก ซึ่งเมาน์เทนบีเปิดมา 2 เดือน คนทั้งจังหวัดรู้ แต่ตำรวจไม่รู้ พอเกิดปัญหาก็แก้ปัญหาง่ายๆ คือดำเนินคดีกับเจ้าของ สั่งย้ายนายอำเภอ ตำรวจในพื้นที่ไปแขวนไว้ที่อื่น ตั้งกรรมการสอบ ซึ่งทำแบบนี้ทุกครั้ง จึงอยากให้กรณีนี้เป็นคดีตัวอย่างโดย 1.ผู้เสียหายรวมตัวกันฟ้องร้องผู้ประกอบการที่ประมาท 2.ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนละเลยแค่ไหน 3.ฟ้องศาลปกครอง ฟ้องหน่วยงานรัฐตั้งแต่ผู้ว่าฯ ลงมา เพื่อให้รับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยปละละเลย


"เช่นเดียวกับพื้นที่อื่น หากพบสถานบันเทิงเสี่ยง เคยถูกร้องเรียนแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ แต่ไม่มีการแก้ไขอะไร ก็สามารถยื่นเรื่อง ป.ป.ช.ได้ โดยไม่ต้องรอให้เกิดโศกนาฏกรรม และ 4. ที่แห่งนี้ผู้ว่าฯ ควรมีคำสั่งห้ามเปิดกิจการแบบสถานบริการอีก 5 ปี ซึ่งจุดนี้อาศัยอำนาจตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 22/2558 ,46/2559 ดำเนินการได้เลย เพราะหนึ่งในฐานความผิดที่ชัดเจน คือ ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีใช้บริการ รวมถึงขอเรียกร้องให้กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการฯ ตามคำสั่งนี้ เร่งออกกำกับติดตามตรวจจับกุมร้านเหล้าผับบาร์ต่างๆ ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย อย่าปล่อยให้ร้านเหล้าผับบาร์นอกรีตสร้างความเสียหายต่อชีวิตทรัพย์สินประชาชน" ว่าที่ร้อยตรีสมชายกล่าว

นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า ขณะนี้ทราบเบื้องต้นว่า เจ้าของผับมีการจ่ายชดเชยผู้ตายรายละ 5 หมื่นบาท ถือว่าไม่เพียงพอ ทั้งที่จริงควรจ่ายชดเชยโดยคำนวนความสูญเสียทางเศรษฐกิจตามประมาณการณ์อายุของผู้เสียชีวิต โดยรัฐต้องเป็นแกนกลางจัดสร้างพื้นที่ต่อรองระหว่างผู้ประกอบการกับครอบครัวผู้เสียหายให้ได้รับการเยียวยาที่เป็นธรรมที่สุด ทั้งนี้ ตนเห็นว่าการแก้ปัญหาต้องปฏิรูปหรือออกกฎหมายให้นายทุน เจ้าของกิจการ ต้องรับผิดชอบค่าชดเชยกรณีเกิดอุบัติภัยต่างๆ หรือให้มีการตั้งกองทุนชดเชยขึ้นมา โดยให้นายทุนส่งเงินเข้ากองทุน แทนที่จะให้เป็นการต่อรองเป็นรายกรณี และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตเปิดสถานประกอบการที่ต้องขึ้นกับหลายหน่วยงานทั้งท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน ต้องบูรณาการการทำงานร่วมกัน ตรวจสอบต่อเนื่อง และเน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน เพื่อให้สถานประกอบการอยู่ในร่องในรอย


“เหตุการณ์ตั้งแต่โรงงานเคเดอร์ ปี 2536 ตาย 188 คน โรงแรมโรเยลพลาซ่าถล่ม ตาย 137 คน ปี 2536 โรงงานลำใยอบแห้งระเบิด ปี 2542 ตาย 36 คน ซานติก้าผับ ตาย 67 คน ถึงเมาน์เทนบีล่าสุด ซึ่งกรณีโรงงานลำใยระเบิดได้นำมาตรฐานข้อเรียกร้องที่นายจ้างโรงงานเคเดอร์จ่ายมาเป็นต้นแบบเรียกร้อง คือให้จ่ายค่าชดเชยผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รายละ 2 แสนบาท และจ่ายค่าการศึกษาบุตรผู้เสียชีวิต แต่นายจ้างหนีออกนอกประเทศ จึงต้องเรียกร้องต่อรัฐบาลใช้เวลาต่อสู้นาน 6 เดือน รัฐบาลมีมติจ่ายเป็นกรณีพิเศษให้เท่ากับกรณีคนงานเคเดอร์ คือรายละ 2 แสน และให้ค่าการศึกษาบุตร แต่เมื่อเทียบกับเหตุการณ์เมาน์เทนบีได้แค่ 5 หมื่นบาทถือว่าน้อยมาก ควรต้องได้เกือบล้านด้วยซ้ำ เพราะต้องคิดตามอัตราเงินเฟ้อ 4-5% ด้วย ข้อสำคัญผับบาร์จะเป็นสถานที่ของอภิสิทธิ์ชนมิได้ กฎหมายต้องเท่าเทียม” นายจะเด็จ กล่าว

นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ รองผอ.ฝ่ายพิทักษ์สิทธิ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่พบว่ามีใครออกมาเยียวยาต่อผู้เสียหายอย่างจริงจัง ตามที่มีการอ้างว่าทนายความนำเงินประกันไปเยียวยาผู้เสียหายแล้ว ทั้งๆ ที่ ผู้เสียหายต้องได้รับการเยียวยาอย่างเป็นธรรม โดยการเยียวยาเฉพาะหน้า ต่อผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็นค่าปลงศพ ค่ารักษาพยาบาล และกรณีเป็นหัวหน้าครอบครัว ก็จะทำให้มีคนอีกมากที่ขาดคนอุปการะก็ต้องได้รับการเยียวยาด้วย ดังนั้น ขณะนี้ทางมูลนิธิฯ ได้ประสานงานไปยังเครือข่ายภาคตะวันออกลงพื้นที่ไปเก็บข้อมูล ประสานความช่วยเหลือผู้เสียหายแล้ว หรืออีกช่องทางหนึ่งผู้เสียหายสามารถติดต่อมาทางมูลนิธิฯ ได้ทางโทรศัพท์ 02-248-3734-7 Inbox เข้าไปที่เฟสบุ๊ค “มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค” และไลน์ consumerthai โดยในการช่วยเหลือ อาทิ เปิดพื้นที่ให้มีการไกล่เกลี่ย เยียวยา หากไม่มีความเป็นธรรมก็จะช่วยเรื่องการฟ้องร้องคดีต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น