สปสช.เข้าใจ รพ.มงกุฎวัฒนะ ส่งคืนผู้ป่วยบัตรทอง 7 หมื่นคน ที่ขึ้นทะเบียนปฐมภูมิ เหตุต้องการลดแออัด มีผล 1 ต.ค.นี้ เร่งประสาน กทม. ให้ศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้านรับช่วงดูแลต่ออัตโนมัติ หากไม่สะดวกย้ายได้ภายหลัง หรือใช้ปฐมภูมิรักษาทุกที่
เมื่อวันที่ 6 ส.ค. นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณี รพ.มงกุฎวัฒนะ ส่งคืนประชากรสิทธิบัตรทองที่ขึ้นทะเบียนปฐมภูมิ 7 หมื่นคน เนื่องจากเกิดปัญหาความแออัด ผู้ป่วยมากเกินพื้นที่ใช้สอย ว่า สปสช. เข้าใจเหตุผลเรื่องความแออัดจนต้องขอลดจำนวนประชากรที่ขึ้นทะเบียนปฐมภูมิเพื่อความสะดวกในการให้บริการ และต้องขอขอบคุณ รพ.มงกุฎวัฒนะ ที่ช่วยเหลือดูแลประชาชนผู้ใช้สิทธิบัตรทองมายาวนานกว่า 12 ปี
นพ.จเด็จ กล่าวว่า สปสช.ได้รับจดหมายขอคืนประชากรจาก รพ.มงกุฎวัฒนะ แล้ว ซึ่งตามกฎหมายถือเป็นการขอเลิกสัญญากับ สปสช. ซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 ต.ค.นี้ สปสช.จะย้ายสิทธิประชาชนที่เคยขึ้นทะเบียนปฐมภูมิกับ รพ.มงกุฎวัฒนะ โดยหาหน่วยบริการอื่นมารับช่วงดูแลเพื่อไม่ให้การรับบริการขาดตอน ประกอบกับ กทม.มีนโยบายพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิและเป็นเจ้าภาพระบบปฐมภูมิใน กทม. จึงจะได้หารือ กทม.ให้ศูนย์บริการสาธารณสุขเป็นเจ้าภาพรับดูแลผู้ใช้สิทธิกลุ่มนี้ต่อ โดยประชาชนจะถูกขึ้นทะเบียนหน่วยบริการปฐมภูมิกับศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้านโดยอัตโนมัติ และหากไม่สะดวกไปศูนย์บริการสาธารณสุขที่ สปสช. เลือกให้ ก็สามารถย้ายหน่วยบริการปฐมภูมิภายหลังได้
“สปสช.ยังมีนโยบายยกระดับบัตรทองให้เข้ารับบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ ดังนั้น ช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ หากมีความจำเป็นหรือไม่สะดวกไปศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้าน ผู้ใช้สิทธิบัตรทองที่เคยขึ้นทะเบียนกับ รพ.มงกุฎวัฒนะ ก็ไปรับบริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิอื่น คลินิกชุมชนอบอุ่นในเครือข่าย สปสช. ได้ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม โทรมาที่สายด่วน 1330 ไลน์ไอดี @nhso” นพ.จเด็จ กล่าว
นพ.จเด็จ กล่าวว่า ส่วนข้อเรียกร้องของ รพ.มงกุฎวัฒนะ ที่ต้องการให้ สปสช.ประสานกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เพื่อขออนุมัติเพิ่มจำนวนเตียงจาก 440 เตียง เป็น 750 เตียง เพื่อให้รองรับคนไข้ส่งต่อมากขึ้นก็ยินดีเป็นตัวกลาง เพราะการเพิ่มจำนวนเตียงมากขึ้น จะทำให้ผู้ใช้สิทธิบัตรทองมีโอกาสได้เข้าถึงบริการเพิ่มขึ้นด้วย