xs
xsm
sm
md
lg

“อนุทิน” ลั่นไม่เคยพูดให้ถอดมาสก์ พร้อมรับฟังข้อเสนอ “หมอประสิทธิ์” ให้สวมพื้นที่ปิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อนุทิน” พร้อมรับฟังทุกข้อเสนอ หลังคณบดีศิริราช ชงให้สวมหน้ากากพื้นที่ปิด ส่วนประชุม ศบค. 8 ก.ค.นี้ หากสถานการณ์ดีขึ้นก็ผ่อนคลายลง ถ้าตึงก็จะเข้มมาตรการเป็นจุดๆ ลั่น ไม่เคยพูดว่าถึงเวลาปลดหน้ากาก มีแต่คนอื่นพูด ช่วงนี้ใส่ได้ก็ยังควรใส่ เพื่อประโยชน์ของตัวเอง

เมื่อวันที่ 6 ก.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ขอให้ สธ.เสนอ ศบค.ออกมาตรการบังคับให้สวมหน้ากากในพื้นที่ปิด ว่า สธ.มีการประชุมอีโอซีทุกเช้า คณบดีแพทย์จากสถาบันต่างๆ ก็ร่วมด้วย ขั้นตอนการนำเสนอมีอยู่แล้ว ทุกอย่างเราฟังหมด หากอีโอซีเสนอขึ้นมาผ่าน ศบค. ส่วนใหญ่ก็ผ่าน ที่ผ่านมา เสนออะไรไปก็รับหมด ไม่เคยเห็นมีการไม่เห็นด้วย การได้รับคำแนะนำ ข้อชี้แนะดีๆ จากผู้ทรงคุณวุฒิก็เป็นบุญของ สธ.ที่มีคนเข้ามาช่วยคิดช่วยทำงานมากมาย เราพร้อมอยู่แล้วถ้าเป้นประโยชน์

ถามว่า การประชุม ศบค.วันที่ 8 ก.ค.นี้ จะมีการเสนอมาตรการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก่อนประชุม ศบค.ชุดใหญ่ จะมีการประชุม ศปก.ศบค.หรือชุดเล็ก ก็จะเสนอมาตรการต่างๆ ถ้าสถานการณ์ดีขึ้นก็เร่งลดหย่อน ถ้าสถานการณ์ตึงก็จะไปดูเป็นจุดๆ ว่าเราควรแก้ไขอย่างไร อย่างช่วงนี้สิ่งที่เราเห้น ศบค. และ สธ.ไม่เคยพูดเลยว่า ถึงเวลาปลดหน้ากากแล้ว มีแต่หน่วยงานอื่นพูด

“รัฐมนตรี ปลัด นายกรัฐมนตรี ศบค. พูดแต่ว่าถ้าใส่ได้ใส่เถอะ อย่าไปถอดเลย ทุกอย่างใส่แล้วก็เป็นการลดความเสี่ยงเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั้งนั้น หากอยากจะถอดก็ประเมินสถานการณ์เอา ก็เป็นไปตามที่เราพูดทุกอย่าง ไม่ได้ตั้งเข็มว่าจะถอดหน้ากากอย่างเดียว พอถึงเวลาถ้ามีปัญหาขึ้นมาก็จะเป็นความเคลือบแคลงสงสัยและไปหาคนรับผิดชอบ ซึ่งไม่เกิดประโยชน์อะไร ช่วงนี้ใส่ได้เราก็ใส่ เพื่อตัวเราเอง” นายอนุทิน กล่าว

ถามถึงกรณีมีข้อห่วงกังวลว่า มีการติดเชื้อในโรงเรียนเพิ่มขึ้น นายอนุทิน กล่าวว่า ก็สามารถติดได้ทุกที่ที่มีการสัญจรไปมา มีการรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก ก้ต้องระวัง ฉีดวัคซีนแล้วช่วยได้เยอะเลย ถึงแม้ติดก็จะไม่เป็นอะไร นี่คือเจตนารมณ์ นี่คือ สิ่งที่รัฐบาล และ สธ.พยายามออกมาชี้แจงว่า ถ้าเราป้องกันตนเองอย่างเต็มที่ แม้จะติดเชื้อก็จะไม่เป้นอะไร และถึงจะเดินหน้าไม่ว่าจะเป้นโรคประจำถิ่นหรืออะไร ซึ่งในกฎหมายก็ไม่มีโรคประจำถิ่น มีแต่โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง เราพยายามทำให้ทุกอย่างเป็นปกติมากที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น