สปสช.เผยหลัง "โควิด" พ้นการระบาดใหญ่ การรักษาจะเข้าสู่ระบบตามสิทธิสุขภาพ เนื่องจากโรคลดรุนแรงลง ต้องปรับระบบให้สอดคล้อง เตรียมหารือในบอร์ด สปสช.สัปดาห์หน้าแจก ATK ร้านขายยาต่อหรือไม่
เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า หลังจากที่ไทยพ้นการระบาดใหญ่ของโควิด 19 (Post-Pandemic) ตามแผนของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ทำให้การรักษาพยาบาลของประชาชนจะกลับสู่ภาวะปกติ คือ เมื่อมีการเจ็บป่วยก็ให้รักษาพยาบาลตามสิทธิรักษาเดิมที่มีอยู่ ไปใช้บริการในสถานพยาบาลใกล้บ้าน หากเห็นสมควรว่าจะต้องส่งตัวต่อตามระบบ รพ.จะประเมินและส่งต่อเอง เนื่องจากถือว่าการป่วยโควิด ต่อไปจะเหมือนกับการเจ็บป่วยแบบไข้หวัดธรรมดา
"เดิมการระบาดของโควิด ช่วงแรกมีประชาชนป่วยมาก ทำให้หน่วยงานรัฐต้องระดมความช่วยเหลือจากภาคเอกชน ทำให้เมื่อป่วยโควิด สามารถเข้ารับการรักษาได้ทุกที่ หรือ การเกิด Hospitel แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มดีขึ้น ก็ต้องมีการปรับระบบ เพราะโรคไม่ได้รุนแรงเหมือนเดิมอีกต่อไป" ทพ.อรรถพรกล่าว
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า สำหรับค่ารักษาพยาบาลจากโควิด 19 ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ ปี 2563 - ปัจจุบัน ใช้งบประมาณมากกว่า 150,000 ล้านบาท และในการประชุมบอร์ด สปสช.ในวันที่ 4 ก.ค. เตรียมพิจารณาเรื่องการแจกชุดตรวจ ATK ในร้านขายยาว่าสมควรยกเลิกหรือขยายต่อหรือไม่ เนื่องจากตามหลักเกณฑ์ของกรมควบคุมโรค การตรวจ ATK ให้ทำต่อเมื่อมีอาการป่วยเท่านั้น ไม่ต้องมีการตรวจบ่อยครั้งเหมือนในอดีต