สธ.จับมือ รพ.เมดพาร์ค เปิดคลินิกโรคอุบัติใหม่และทางเดินหายใจเฉียบพลัน ดูแลรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ กลุ่มเข้ามารับการรักษาในไทย ช่วยคัดกรองผู้ป่วยสงสัยโรคต่างๆ รวมถึงฝีดาษลิง
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเปิดคลินิกโรคอุบัติใหม่และโรคทางเดินหายใจเฉียบพลัน (EIDARIC) ของ รพ.เมดพาร์ค ว่า สถานการณ์โรคโควิด 19 ของไทยมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องทั้งผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต รัฐบาลจึงผ่อนคลายมาตรการต่างๆ มากขึ้น ให้ประชาชนใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติ และเตรียมพร้อมเข้าสู่โรคประจำถิ่น แต่ สธ.ยังให้ความสำคัญในการเฝ้าระวังและดำเนินมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 และโรคติดต่ออื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น โรคฝีดาษวานร ซึ่งกรมควบคุมโรคได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข กรณีโรคฝีดาษวานร เพื่อเฝ้าระวังคัดกรองผู้เดินทางจากประเทศที่มีการระบาด ช่วยให้ตรวจวินิจฉัยกลุ่มเสี่ยงได้รวดเร็วขึ้น และสามารถป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดในประเทศได้
นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า คลินิกโรคอุบัติใหม่ฯ รพ.เมดพาร์ค ถือเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชน ทำให้ระบบสาธารณสุขของประเทศมีความเข้มแข็ง รับมือกับโรคระบาดต่างๆ รวมถึงช่วยเสริมการเฝ้าระวัง ดูแลรักษาผู้ป่วยจากโรคอุบัติใหม่และโรคทางเดินหายใจเฉียบพลัน โดยรองรับการให้บริการกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาจากนโยบายเปิดประเทศ และผู้ที่เดินทางเข้ามาเพื่อรับการรักษา (Medical Tourism) จากนโยบายมุางสู่ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ซึ่งคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น
“ขณะนี้พยายามช่วยกันฟื้นฟูเศรษฐกิจและเปิดประเทศ ซึ่ง รพ.เมดพาร์ค มีระบบการรักษาพยาบาลที่มีมาตรฐาน เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยดูแลนักท่องเที่ยวที่เข้ามาตามระบบ ช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้เดินทางจากต่างประเทศได้” นพ.เกียรติภูมิกล่าว
ทั้งนี้ คลินิกโรคอุบัติใหม่และโรคทางเดินหายใจเฉียบพลัน (EIDARIC) เป็นคลินิกความดันลบ สร้างความปลอดภัยให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ และผู้รับบริการ มีระบบบริหารจัดการแบบ One stop service เพื่อคัดกรองผู้ป่วยที่สงสัยว่าเป็นโรคระบาดให้เข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที มีการจัดพื้นที่ปลอดภัยในโรงพยาบาลเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่บุคคลอื่น โดยขณะนี้มีผู้เข้ารับบริการเฉลี่ย 35-45 รายต่อวัน