กรมอนามัยแนะโรงเรียนจัด "แปรงฟัน" หลังอาหารกลางวันแบบ New Normal ในห้องเรียน ช่วยเด็กประถมแปรงฟันเพิ่มขึ้น 97.2% ลดปัญหาฟันผุในเด็ก
เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า หลังเปิดเรียนออนไซต์ 1 เดือน เด็กนักเรียนกลับมาใช้ชีวิตส่วนใหญ่ภายในโรงเรียนมากยิ่งขึ้น กรมอนามัยแนะนำให้โรงเรียนจัดกิจกรรมแปรงฟันหลังอาหารกลางวัน เพื่อฝึกให้เด็กรู้จักแปรงฟันตนเอง เรียนรู้การแปรงฟันว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องปฏิบัติสม่ำเสมอทุกวัน เพื่อให้เกิดความเคยชินกับการมีสภาพช่องปากสะอาด ช่วยลดความเสี่ยงโรคฟันผุ และเหงือกอักเสบ ซึ่งจากผลการศึกษาสำนักทันตสาธารณสุข เรื่อง “ชีวิตวิถีใหม่กับการยกระดับกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพช่องปากในเด็กนักเรียน” พบว่า การสนับสนุนให้โรงเรียนจัดกิจกรรมแปรงฟันหลังอาหารกลางวันแบบ “New normal” ส่งผลให้นักเรียนประถมศึกษามีพฤติกรรมแปรงฟันเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 92.9 ในปี 2562 เป็นร้อยละ 97.2 ในปี 2563 เป็นการป้องกันลดปัญหาฟันผุในเด็ก ทำให้ไม่จำเป็นต้องไปรับบริการอุดฟัน หรือถอนฟัน ผู้ปกครองไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเดินทางพาเด็กไปทำฟัน
นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า กิจกรรมแปรงฟันหลังอาหารกลางวันแบบ New normal ในห้องเรียน ครูประจำชั้นสามารถทำได้ ดังนี้ 1.ให้เด็กนักเรียนแปรงฟันในห้องเรียน โดยนั่งที่โต๊ะเรียน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของน้ำลายละอองน้ำ หรือเชื้อโรคสู่ผู้อื่น กรณีห้องเรียนแออัด ให้เหลื่อมเวลาแปรงฟัน 2.ก่อนแปรงฟันทุกครั้งให้ล้างมือด้วยสบู่และน้ำเสมออย่างน้อย 20 วินาที หรือเจลแอลกอฮอล์ 70 - 74% หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่ม และเว้นระยะห่าง 1-2 เมตร 3.ครูประจำชั้นเทน้ำให้นักเรียนใส่แก้วน้ำใบที่ 1 ประมาณ 15 มิลลิลิตร
4.นักเรียนนั่งที่โต๊ะเรียน แปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ครอบคลุมทุกซี่ ทุกด้าน นานอย่างน้อย 2 นาที เมื่อแปรงฟันเสร็จแล้วให้บ้วนยาสีฟันและน้ำสะอาดลงในแก้วน้ำใบที่ 2 เช็ดปากให้เรียบร้อย 5.นักเรียนทุกคนนำน้ำที่ใช้แล้วจากแก้วใบที่ 2 เทรวมใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ และให้ครูประจำชั้นนำไปเททิ้งในที่ระบายน้ำของโรงเรียน ห้ามเทลงพื้นดิน 6.นักเรียนนำแปรงสีฟันและแก้วน้ำไปล้างทำความสะอาด นำมาเก็บให้เรียบร้อย หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่ม เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร และ 7.ตรวจความสะอาดฟันหลังแปรงฟันด้วยตนเองทุกวัน โดยอาจมีกระจกของตัวเองในการตรวจดูความสะอาด เสริมด้วยกิจกรรมการย้อมสีฟัน อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง