"อนุทิน" จัดระดมความเห็นภาคธุรกิจท่องเที่ยวและคมนาคม ทำมาตรการเสนอ ศบค.รองรับพ้นระบาด "โควิด" หวังกอด กิน บิน เที่ยว ใช้ชีวิตปกติอีกครั้ง ย้ำยังต้องเข้มป้องกันและวัคซีนเข็มกระตุ้น "ศักดิ์สยาม" คาดปีนี้เข้าประเทศกว่า 20 ล้านคน สร้างเม็ดเงินกว่า 3 แสนล.บาท
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่อิมแพค เมืองทองธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวเปิดงาน Meet & Greet “Thailand Moving Together : กอด กิน บิน เที่ยว ใช้ชีวิตใกล้ชิดอีกครั้ง” ว่า เป็นเวลากว่า 2 ปีที่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวและการเดินทางของไทย เผชิญกับความยากลำบากจากสถานการณ์โควิด 19 และการปิดประเทศ ที่ผ่านมา 3 กระทรวง คือ สธ. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงคมนาคม ทำงานร่วมกันหามาตรการต่างๆ ให้เกิดสมดุลระหว่างการควบคุมป้องกันโรคและการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้สถานการณ์โควิดของไทยลดลงทั้งผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต มาจากความร่วมมือของประชาชนและผู้ประกอบการที่ทำตามคำแนะนำและฉีดวัคซีน ทำให้ สธ.สามารถเสนอมาตรการผ่อนคลายต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้เพิ่มมากขึ้น
"ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2565 รัฐบาลได้ยกเลิกมาตรการเข้าประเทศรูปแบบ Test & Go นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์เดินทางเข้าประเทศได้อย่างเสรี ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้น เริ่มเห็นสัญญาณของการฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น" นายอนุทินกล่าว
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมการเปลี่ยนผ่านโควิดสู่โรคประจำถิ่น ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวสูงขึ้นต่อเนื่อง สธ.จึงจัดงานนี้ขึ้น โดยเชิญตัวแทนสมาคมผู้ประกอบการภาคท่องเที่ยว บริการ ร้านอาหาร โรงแรมและคมนาคม รวม 22 สมาคม เพื่อรับฟังความคิดเห็นและวางแผนร่วมกันในการจัดทำมาตรการสาธารณสุขต่างๆ เสนอต่อที่ประชุม ศบค.ต่อไป เพื่อสร้างความมั่นใจต่อการดำเนินธุรกิจการท่องเที่ยวและคมนาคม ให้คนไทยกลับมามีชีวิตอย่างปกติสุข อยู่ร่วมกับโควิดอย่างปลอดภัย
นายอนุทินกล่าวว่า การรับฟังความคิดเห็นเบื้องต้น พบว่า ตัวแทนทั้งภาครัฐและผู้ประกอบการ ต่างแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันเสนอแนวทางเพื่อพาประเทศไทยก้าวข้ามวิกฤตบนความปลอดภัยของประชาชน กระตุ้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ปลดล็อกมาตรการที่ไม่จำเป็นต่างๆ เพื่อเดินหน้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่นต่อไป โดยผู้ประกอบการต้องการให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ แจ้งแผนนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวล่วงหน้า เพื่อเตรียมพร้อมและปรับตัวได้ ให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวบความสะดวกการเดินทางของนักท่องเที่ยว และให้ สธ.เตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข ออกมาตรการผ่อนคลายต่างๆ และคำแนะนำประชาชนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ซึ่ง สธ.ได้เตรียมพร้อมระบบการรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่ ทัเงเตียงพอ ยาพอ และหมอพอ สำรองยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ป้องกันอย่างพอเพียงรับมือกับการระบาดซ้ำ
