xs
xsm
sm
md
lg

กัญชาเสรีต้องมาพร้อมความรู้ / ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตั้งแต่การปลดล็อกกัญชาให้พ้นจากบัญชียาเสพติดประเภท 5 มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ดูเหมือนกระแสวิพากษ์วิจารณ์นโยบายกัญชาเสรีจะดังกระหึ่มถึงเรื่องผลกระทบที่ตามมามากมาย โดยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยเพราะเกรงว่าผู้คนจะใช้เพื่อนันทนาการเสียมากกว่าทางการแพทย์ โดยพุ่งเป้าไปที่เด็กและเยาวชนที่เกรงว่าจะได้รับผลกระทบมากสุด

กระทั่งราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมกุมารประสาทวิทยา (ประเทศไทย) ชมรมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นแห่งประเทศไทย ได้มีข้อห่วงใยและคำแนะนำว่า เด็กที่อายุน้อยกว่า 20 ปีไม่ควรเข้าถึงและบริโภคกัญชา เนื่องจากสมองยังพัฒนาไม่เต็มที่ และกัญชามีสาร THC ที่มีผลต่อสมองเด็กในระยะยาว โดยขอให้มีการประชาสัมพันธ์เรื่องโทษของการใช้กัญชากับสมองเด็ก เพื่อให้เกิดความตระหนักต่อการเข้าถึงกัญชาในเด็กและวัยรุ่นเพื่อนันทนาการว่ากัญชาเป็นสารที่มีฤทธิ์เสพติด ส่งผลต่อสุขภาพกายและจิตในระยะเฉียบพลัน และอาจรุนแรงถึงกับชีวิตได้ รวมถึงมีผลกระทบในระยะยาวต่อสมอง

ตลกดีหรือไม่ล่ะเนี่ย !

เพราะเมื่อปลดล็อคกัญชาแล้ว แต่ร่างพ.ร.บ.กัญชากัญชง เพิ่งผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร วาระแรกเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเท่านั้น นั่นหมายความว่ายังอีกยาว และจนถึงขณะนี้จึงยังไม่มีกฎหมายหรือมาตราการใด ๆ เพื่อควบคุมการนำไปใช้ที่ไม่เหมาะสม จนเป็นเหตุให้มีการเรียกร้องจากทุกทิศทางให้รัฐบาลต้องหาทางออกอื่น

รวมถึงข้อเสนอแนะให้ใช้กฎหมายอื่นเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

อย่างน้อยก็เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชน

ตลกดีหรือไม่ล่ะเนี่ย !

จริง ๆ เห็นปัญหานี้แล้วก็ทำให้นึกถึงเรื่องอื่น ๆ ที่แว่บเข้ามาในหัวที่เจอสภาพใกล้เคียงกัน คือ เวลาจะมีนโยบายอะไรใหม่ ๆ แต่ละทีต้องคอยลุ้น เพราะไม่รู้ว่ามีแผนปฏิบัติการอย่างไร มีการวางแผนหรือคิดให้รอบคอบทั้งแผนปฏิบัติการที่ต้องสอดรับกับระยะเวลาที่ต้องดำเนินการด้วยหรือเปล่า ไม่ใช่ประกาศใช้นโยบายนั้นแล้ว แต่ยังไม่ได้เตรียมความพร้อมรอบด้านหรือให้ความรู้เสียก่อน

เหมือนกรณีปลดล็อคกัญชาแล้ว แต่กฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการพิจารณา ก็แล้วทำไมไม่วางแผนให้มีการพิจารณาให้สอดรับกับระยะเวลาที่จะปลดล็อคให้ทันท่วงทีกัน จะได้ไม่ต้องเกิดเป็นสุญญากาศเยี่ยงนี้

พลันให้นึกถึงนโยบายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน เช่น แจกแท๊บเล็ตให้เด็กประถม 1 พอถึงเวลาประกาศจะแจกแท็บเล็ตก็หาวิธีจัดจ้างจัดซื้อเพื่อแจกให้เด็กนักเรียนโดยไม่ได้คำนึงถึงความพร้อม ความรู้หรือผลกระทบใด ๆ ระบบสาธารณูปโภคขณะนั้นยังไม่ทั่วถึง บุคลากรก็ยังใช้ไม่เป็น ไวไฟไม่มี แม้แต่เสียงคัดค้านว่าแท็บเล็ตยังไม่เหมาะกับเด็กประถม 1 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน สุดท้ายก็ไม่มีผลใด ๆ เมื่อเป็นนโยบายก็แจกไป ส่วนปัญหาก็แก้ไป แล้วพอถึงเวลาหนึ่งก็เลิกไป

ที่จริงก็มีบทเรียนซ้ำ ๆ ของการจัดการที่ไม่คำนึงถึงแผนปฏิบัติการ สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการดำเนินงาน

กรณีนี้สิ่งที่รัฐบาลควรคำนึงถึงไม่ใช่แค่เพียงเร่งให้ออกกฏหมายรองรับเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญคือการรณรงค์ให้เกิดการตระหนักรู้ถึงการใช้กัญชาอย่างเหมาะสม รวมไปถึงการเผยแพร่ความรู้ให้เหมาะกับสถานการณ์ ซึ่งจำเป็นต้องเตรียมการ และต้องให้ข้อมูลแบบเป็นระบบ ไม่ใช่ให้คนที่ต้องการรู้ไปหาข้อมูลเอง โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าบนโลกออนไลน์ทุกวันนี้เราก็ต้องเผชิญกับข่าวจริงข่าวปลอมอยู่ทุกวี่วัน

เราต้องยอมรับว่าเด็กและเยาวชนสามารถเข้าถึงกัญชาได้ง่าย แต่สิ่งที่ขาดคือความรู้ ความปลอดภัย หรือแม้แต่ทุกวันนี้ผู้ใหญ่เองรู้จักกัญชาแบบไหน ?

ถ้าเจตนาต้องการใช้ประโยชน์จากกัญชาเพื่อทางการแพทย์ ก็ต้องเร่งให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ข้อดี ข้อเสีย และผลกระทบที่จะตามมา

เสรีต้องมาคู่กับความรู้

สังคมที่ชุลมุนมักเกิดจากความไม่รู้

ถ้าผู้นำไม่เป็นผู้ทำให้เกิดสังคมตระหนักรู้ ก็อย่าได้แปลกใจถ้าผู้คนจะบ่นหรือก่น(ด่า)


กำลังโหลดความคิดเห็น