สบส.ตรวจสอบ รพ.เอกชนย่านบางแค หลังหนุ่มร้องผ่าตัดกระดูกไขสันหลังทำพิการ เร่งเก็บข้อมูลหลักฐาน ยื่นแพทยสภาพิจารณามาตรฐานวิชาชีพแพทย์ หาหมาจากการักษาจริงจะเอาผิดผู้ดำเนินการสถานพยาบาล มีโทษทั้งจำและปรับ
จากกรณีข่าวชายหนุ่ม อายุ 31 ปี รายหนึ่งได้รับผลกระทบหลังผ่าตัดกระดูกไขสันหลังกับ รพ.เอกชน แห่งหนึ่งย่านบางแค จนไม่สามารถขยับร่างกายได้ตามปกติ ต่อมาแพทย์ลงความเห็นให้ "เป็นผู้พิการ" อีกทั้ง รพ.เอกชนและแพทย์ไม่มีการแสดงความรับผิดชอบ จนชายหนุ่มอดอาหารและยืนยันว่าจะฆ่าตัวตายหากไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้น
เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ขณะนี้ สบส.ได้ประสานรับเรื่องร้องเรียนจากผู้ได้รับผลกระทบในเบื้องต้นแล้ว และมอบหมายให้กองกฎหมาย สบส.ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง รพ.เอกชนดังกล่าวในย่านบางแค เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยจะบันทึกถ้อยคำจากบุคลากรของสถานพยาบาล และรวบรวมเอกสารทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง มุ่งเน้นในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.สถานพยาบาล ทั้งมาตรฐานแพทย์ และมาตรฐานการรักษา พร้อมส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานวิชาชีพแพทย์ให้แพทยสภา เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ได้รับผลกระทบ และสถานพยาบาลต่อไป
นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดี สบส.กล่าวว่า หากแพทยสภามีผลการวินิจฉัยว่า ความพิการที่เกิดกับผู้เสียหายมาจากการรักษาของแพทย์ สบส.ก็จะเอาผิดกับผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ตามที่พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 กำหนด ในมาตรา 34 (2) ฐานที่ผู้ดำเนินการไม่ควบคุม ดูแลให้แพทย์ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบวิชาชีพ ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
"ในปัจจุบันแม้เทคโนโลยีทางการแพทย์จะเจริญก้าวหน้ามากแล้ว แต่การให้บริการทางการแพทย์ทุกประเภทก็จะต้องกระทำด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุไม่คาดคิด ซึ่งบางครั้งผลกระทบมิได้เพียงส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ร่างกายของผู้รับบริการ แต่อาจจะรุนแรงถึงขั้นเกิดความพิการ หรือเกิดการเสียชีวิตได้ ขอฝากผู้ดำเนินการสถานพยาบาลเอกชนทุกแห่งกวดขันมาตรฐานสถานพยาบาลทุกด้าน ทั้งสถานที่ ผู้ให้บริการ การบริการ เครื่องมือแพทย์ ยาและเวชภัณฑ์ และความปลอดภัย" รองอธิบดี สบส.กล่าว