ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในการประชุมเพื่อรับฟังการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เน้นการส่งผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดแบบสมัครใจ โดยมอง “ผู้เสพ” คือ “ผู้ป่วย” เพื่อบำบัดรักษาให้ได้รับการฟื้นฟูสภาพทางสังคม สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้ ไม่กลับมากระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอีก เป็นการคืนคนดีสู่สังคม
วันนี้ (7 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในการประชุมเพื่อรับฟังการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมี พลเอก ณัฐ อินทรเจริญ ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนประสานงานเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานการณ์โควิด–19 พญ.ป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย ผู้บริหารสำนักพัฒนาสังคม สำนักงานเลขานุการปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการเขตวังทองหลาง พร้อมคณะอนุกรรมการฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า
พลเอก ณัฐ กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานการณ์โควิด-19 โดยมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นคณะกรรมการ ทำหน้าที่ในการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ และวางแผนขับเคลื่อนการดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด บำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พร้อมติดตามและกำกับดูแล ซึ่งเป็นการดำเนินการตามแนวทางการดำเนินงานศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2564 มีหลักการสำคัญในการเน้นการส่งผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดแบบสมัครใจ โดยมอง “ผู้เสพ” คือ “ผู้ป่วย” เพื่อบำบัดรักษาให้ได้รับการฟื้นฟูสภาพทางสังคม สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้ ไม่กลับมากระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอีก เป็นการคืนคนดีสู่สังคม โดยในวันนี้เป็นการประชุมหารือและให้ข้อเสนอแนะแนวทางการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานครเพื่อให้เกิดความยั่งยืน
กรุงเทพมหานคร จัดให้บริการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 โดยมีการดำเนินการ ดังนี้ 1. จัดตั้งศูนย์คัดกรองของกรุงเทพมหานคร จำนวน 20 แห่ง ซึ่งเปิดให้บริการเพื่อรองรับการนำส่งผู้ต้องสงสัยว่าเสพยาเสพติดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ (มาตรา 114) โดยศูนย์คัดกรองจะดำเนินการคัดกรองและประเมินความรุนแรงของการติดยาเสพติด ภาวะความเสี่ยงทางสุขภาพกายหรือสุขภาพจิต ตรวจหาสารเสพติดในร่างกายเพื่อประกอบการประเมินความรุนแรงของการติดยาเสพติด พิจารณาส่งต่อเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูไปยังสถานพยาบาลยาเสพติดหรือสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด 2. การให้บริการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดของกรุงเทพมหานคร ให้การบำบัดฟื้นฟู ตามมาตรา 113, 114, 168 และป.อ.ม.56 ใช้ระยะเวลาในการบำบัด 1 – 4 เดือน ให้บริการแบบผู้ป่วยนอก ให้การบำบัดด้านจิตสังคม BMA Matrix Model จำนวน 71 แห่ง ณ คลินิกก้าวใหม่ศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง คลินิกก้าวใหม่ลาดพร้าว ศูนย์ซับน้ำตาผู้ติดยาเสพติด รพ.ตากสิน และบริการแบบผู้ป่วยใน จำนวน 1 แห่ง ให้การบำบัดโปรแกรม The Winner House ณ สถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด (บ้านพิชิตใจ)
3. การดูแลและบำบัดฟื้นฟูโดยชุมชนเป็นฐานและการลดอันตรายจากการใช้ยาเสพติด (CBTx&HR) ดำเนินการใน 50 เขต โดยมีผลการดำเนินงานผู้ดูแลผู้ที่ใช้ยาเสพติดโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน ปี 2562-2565 รวม 134 ชุมชนใน 50 เขต โดยในปี 2566 มีแผนการขยายการดำเนินงานเพิ่มอย่างน้อยเขตละ 1 ชุมชน จำนวน 50 ชุมชน ใน 50 เขต 4. การฟื้นฟูสภาพทางสังคม มีการจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมให้บริการใน 50 เขต เพื่อให้ผู้ใช้ยาเสพติดได้รับการติดตาม ดูแล ให้คำปรึกษา แนะนำ ให้ความช่วยเหลือและสงเคราะห์แก่ผู้เข้ารับการบำบัดรักษา ได้รับบริการด้านสวัสดิการสังคม การสังคมสงเคราะห์ที่จำเป็นและเหมาะสม รวมทั้งช่วยเหลือสนับสนุนให้มีที่อยู่อาศัยเป็นการชั่วคราว เพื่อให้บุคคลดังกล่าวสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้ โดยไม่กลับมากระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอีก
สำหรับการเตรียมการจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมกรุงเทพมหานคร และศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมเขต มีดังนี้ 1. จัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมกรุงเทพมหานคร ณ สำนักพัฒนาสังคม ซึ่งตั้งอยู่ในโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานครดินแดง 2 เขตดินแดง และจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมเขต ณ สำนักงานเขต 50 เขต 2. ศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม มีการรับการส่งต่อผู้ใช้ยาเสพติดจากศูนย์คัดกรองฯ สถานพยาบาลสถานฟื้นฟูฯ มีบันทึกข้อมูลแรกรับในระบบ ตรวจสอบข้อมูล โดยการสัมภาษณ์สอบถามความต้องการ การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อกำหนดแนวทางความช่วยเหลือ แบ่งเป็น 1) กรณีช่วยเหลือได้ตามระเบียบกรุงเทพมหานครฯ เช่น ทุนประกอบอาชีพ 5,000 บาท จะดำเนินการช่วยเหลือ โดยมีการแจ้งผลการให้ความช่วยเหลือ การติดตาม ดูแลช่วยเหลือ การเยี่ยมบ้าน และนัดหมายติดตามผลหลังการฟื้นฟูทางสังคม การติดตามในพื้นที่ 2) กรณีไม่สามารถให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกรุงเทพมหานครฯ จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 สังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมการจัดหางาน สังกัดกระทรวงแรงงาน เป็นต้น และ 3. ศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมเขต มีการรายงานข้อมูลมายังศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมกรุงเทพมหานคร เพื่อรวบรวมบันทึกในระบบฐานข้อมูลของกรุงเทพมหานคร ตลอดจนมีการติดตามและประเมินผลหลังการช่วยเหลือ
ทั้งนี้ ศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย 1567 เป็นสายด่วนหลักในการบูรณาการศูนย์บริการบำบัดรักษาผู้เสพยาเสพติด หรือ “สายด่วนเลิกยาเสพติด” ร่วมกับภาคีเครือข่ายสายด่วนทั่วประเทศ 12 หน่วยงาน (ภาครัฐ 10 หน่วยงาน และภาคเอกชน 2 หน่วยงาน) ตลอด 24 ชั่วโมง และมุ่งพัฒนาสู่ระบบการโอนสายส่งต่อ (ระบบ Call Forward) โดยใช้ฐานข้อมูลผู้เสพฐานเดียวในการบูรณาการความช่วยเหลือ ในส่วนของผลการดำเนินงานของระบบแจ้งเรื่องเข้ารับการบำบัดยาเสพติด สายด่วน 1567 ของพื้นที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 6 พ.ค. - 4 มิ.ย. 65 มีเรื่องรับแจ้งทั้งหมด 35 เรื่อง ดำเนินการแล้ว 34 เรื่อง รับเรื่องมาจาก 191 จำนวน 34 ราย และสายด่วน 1567 จำนวน 1 ราย ในส่วนของสายด่วน กทม. 1555 ยังไม่พบว่ามีผู้แจ้งเรื่อง
โดยการประชุมวันนี้ ถือเป็นการบูรณาการระหว่างหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกในการแก้ไขปัญหายาเสพติดครอบคลุมทุกมิติ เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยนำผู้ติดยาเสพติดซึ่งถือว่าเป็นผู้ป่วยให้กลับคืนสู่ครอบครัว และสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้ต่อไป โดยไม่กลับไปกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอีก