ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ประชุมหารือระหว่างกรุงเทพมหานครและกรมราชทัณฑ์ นำผู้ต้องขังลอกท่อ มีงบประมาณจัดการเรื่องนี้อย่างน้อย 15 ล้านบาท เริ่ม 1 ก.ค.นี้
วันนี้ (7 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมหารือระหว่างกรุงเทพมหานครและกรมราชทัณฑ์ เรื่อง การดำเนินงานล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำให้กับกรุงเทพมหานคร โดยมี รศ.วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดร.อายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายสมศักดิ์ มีอุดมศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหาร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ กรมราชทัณฑ์ ผู้แทนกลุ่มปฏิบัติการสำนักงานเขต 6 กลุ่มเขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมชีนิมิตร ชั้น 6 สำนักการระบายน้ำ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มีดำริถึงความร่วมมือกันระหว่างกรุงเทพมหานครกับกรมราชทัณฑ์ในการลอกท่อระบายน้ำโดยผู้ต้องขัง โดยวันนี้ได้เป็นการหารือถึงความร่วมมือกับกรมราชทัณฑ์ในการนำผู้ต้องขังออกมาลอกท่อทำความสะอาดท่อระบายน้ำ ที่ผ่านมาจากการลงพื้นที่ได้รับคำชมจากประชาชนส่วนใหญ่บอกว่าการลอกท่อที่ทำโดยผู้ต้องขังจากกรมราชทัณฑ์คุณภาพดี ประชาชนในชุมชนนำอาหารมาเลี้ยงขอบคุณในการทำงานหนักและมีคุณภาพ อีกทั้งผู้ต้องขังได้ทำประโยชน์ให้สังคม มีรายได้เพิ่มเข้ามา ได้ลดโทษ อย่างไรก็ตามการนำผู้ต้องขังมาทำงานนั้น ได้เน้นย้ำในเรื่องของสิทธิมนุษยชน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นนโยบายของกรมราชทัณฑ์อยู่แล้ว
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวอีกว่า ปัจจุบันกรุงเทพมหานคร มีท่อระบายน้ำที่ต้องดำเนินการลอกทำความสะอาดทั้งสิ้น 6,564 กิโลเมตร แบ่งเป็นในส่วนของสำนักการระบายน้ำ ที่ดูแลรับผิดชอบ 2,050 กิโลเมตร และสำนักงานเขต 50 เขต ดูแลรับผิดชอบ 4,514 กิโลเมตร ในปีนี้ได้ดำเนินการไปแล้วประมาณ 2,000 กิโลเมตร แต่ในช่วงที่เหลืออีก 4 เดือนของปีงบประมาณ ซึ่งยังมีงบประมาณเหลืออยู่ จากการหารือกับอธิบดีกรมราชทัณฑ์ จะเริ่มดำเนินการได้วันที่ 1 ก.ค.65 ทำให้ได้มากที่สุดตั้งเป้าภายใน 4 เดือน มีงบประมาณในการจัดการเรื่องนี้อย่างน้อย 15 ล้านบาท โดยมอบหมายให้แต่ละสำนักงานเขตสำรวจจุดที่เป็นปัญหาน้ำท่วม โดยศึกษาจากระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน ซึ่งเป็นรัฐบาลกับรัฐบาลก็สามารถดำเนินการได้เลย อีกทั้งในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคมเป็นช่วงที่ฝนทิ้งช่วงพอดี เราสามารถดำเนินการลอกท่อได้ นอกจากนี้อยากให้เจ้าของบ้านหรือร้านค้า ออกมาดูด้วยว่าภายในท่อระบายน้ำจะมีไขมันอุดตันอยู่ ซึ่งบ้านเรือนเหล่านั้นอาจทิ้งคราบไขมันลงมา อยากให้เป็นความร่วมมือกันทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งการติดตั้งบ่อดักไขมัน ลดปัญหาการอุดตัน เป็นการแก้ไขปัญหาในระยะยาว นับว่าเป็นสิ่งที่ดีในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน
“การระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ เส้นเลือดใหญ่ ดูแลโดยสำนักการระบายน้ำ คือคลองสายหลักและท่อระบายน้ำหลัก เส้นเลือดฝอย คือคลองย่อยและท่อระบายน้ำย่อย ดูแลโดยสำนักงานเขต จากฝนตกเมื่อช่วงเย็นวานนี้ก็ไม่มีปัญหาน้ำท่วมขัง นับว่าเป็นการตื่นตัวมีการปรับปรุงเครื่องสูบน้ำ มีการทำงานในเส้นเลือดฝอยเพิ่มมากขึ้น” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
ด้านอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวด้วยว่า ขอบคุณผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ได้ให้ความไว้วางใจกรมราชทัณฑ์ในการนำผู้ต้องขังออกมาลอกท่ออีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นระยะเวลานานที่กรมราชทัณฑ์ไม่ได้นำผู้ต้องขังออกมาลอกท่อช่วยเหลือประชาชน ซึ่งการลอกท่อเป็นนโยบายของกรมราชทัณฑ์ที่ให้ความสำคัญกับผู้ต้องขัง โดยคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน รวมถึงสวัสดิการต่างๆ การดูแลรักษายามเจ็บป่วย อาหารเครื่องดื่ม การที่ผู้ต้องขังออกมาทำงานลอกท่อ จะเป็นการปรับตัวก่อนพ้นโทษสร้างการยอมรับต่อสังคม อีกทั้งเป็นการสร้างรายได้ให้กับผู้ต้องขังได้เก็บหอมรอมริบเมื่อพ้นโทษ ทางกรมราชทัณฑ์ได้เตรียมผู้ต้องขังไว้ 1,000 คน จาก 10 เรือนจำ พร้อมดำเนินการได้ทันทีในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ตามนโยบายของกรุงเทพมหานครมหานคร และนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมต่อไป
“นับว่าเป็นมิติที่ดี ที่เราได้เจอทุกหน่วยงาน ยกมือไหว้ทุกหน่วย เพื่อขอความร่วมมือ ถ้าทุกคนร่วมใจกัน จะสามารถแก้ไขปัญหาได้อีกมากมาย ยังมีอีกหลายหน่วยงานที่จะไปเจอกัน การนำผู้ต้องขังมาทำงานนั้น ได้เน้นย้ำเรื่องสิทธิมนุษยชน ให้ปฏิบัติตามปกติเหมือนประชาชนทั่วไป ทั้งค่าแรง สวัสดิการ รวมถึงความสมัครใจของผู้ต้องขัง นอกจากนี้ยังมีแนวคิดจัดทำคณะกรรมการร่วมภาครัฐ ภาคเอกชน กทม. เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สุดท้ายเราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวในตอนท้าย