ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุ กระบะชนเสาไฟฟ้า บนถนนรัชดาภิเษก ขาเข้า ฝั่งตรงข้าม สำนักงานศาลยุติธรรม เสียชีวิต 5 เตรียมพิจารณาประกาศจำกัดความเร็ว เชื่อการที่ประชาชนจะทำให้การขับขี่ระมัดระวังมากขึ้นโดยลดความเร็วลง พร้อมสั่งเดินหน้าแก้ไขจุดเสี่ยงอุบัติเหตุบนถนนทั่วกรุงเทพฯ
วันนี้ ( 3 มิ.ย.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณถนนรัชดาภิเษก ขาเข้า ตรงข้ามศาลอาญา หลังช่วงเช้าวันนี้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต โดยมี ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง ผู้อำนวยการเขตจตุจักร ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่
เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. ได้เกิดอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลักฟาดเข้ากับเสาไฟฟ้า บริเวณถนนรัชดาภิเษก ฝั่งตรงข้ามศาลอาญา มุ่งหน้าแยกรัชดา-ลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และผู้บาดเจ็บ 2 ราย โดย พ.ต.อ.ชิศณุพงศ์ สุริยานนท์ ผกก.สน.พหลโยธิน ได้ให้ข้อมูลกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่า หากวันใดฝนตกถนนจะลื่น ทาง สน.พหลโยธิน จะเตรียมรถยกหรือกำลังตำรวจไว้รอ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุบ่อยทุกครั้งที่มีฝนตก โดยในส่วนของการปรับปรุงถนนทางด้านกายภาพสำนักการจราจรและขนส่งได้ดำเนินการทาสีผิวถนนจราจร สิ่งที่เพิ่มคือการ์ดเรล (Guard Rail) เพื่อลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากยานพาหนะ สามารถลดแรงปะทะ และสามารถป้องกันความเสียหายหรือลดอันตรายให้แก่ผู้ขับขี่และคนเดินเท้าได้
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากเหตุการณ์นี้มาจากหลายองค์ประกอบ ทั้งลักษณะทางกายภาพ ฝนตกไม่หนักจึงอาจมีฝุ่นหรือคราบจับอยู่ทำให้พื้นถนนลื่น รวมทั้งรถที่เกิดอุบัติเหตุใช้ความเร็วเกินกำหนด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่บริเวณนี้กำจัดความเร็วที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การป้องกันแก้ไขอาจจะต้องจำกัดความเร็ว มีป้ายบอกให้ชัดเจน เพิ่มตัวจับความเร็วอัตโนมัติเพื่อเตือนคนขับ อย่างไรก็ตามถ้าขับเร็วเกินกำหนดก็ยากที่จะออกแบบให้ได้มาตรฐาน ดังนั้นต้องช่วยกันสองทาง โดยคนขับก็ต้องชะลอความเร็วด้วย
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้สำนักการจราจรและขนส่งสำรวจและรวบรวมจุดเสี่ยงทั้งหมดในกรุงเทพฯ เพื่อทำแผนที่จุดเสี่ยงแจ้งเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนนี้อาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย คาดว่าจะเริ่มชี้เป้าจุดเสี่ยงให้ประชาชนทราบได้ภายในสัปดาห์หน้า
“เวลาเราจะแก้ปัญหาเราต้องเริ่มจากจุดเสี่ยงที่มีความเสี่ยงสูงก่อน ทั้งในแง่อาชญากรรม อุบัติเหตุ น้ำท่วม จุดรถติด โดยเราสามารถนำข้อมูลเหล่านี้กำหนดจุดลงในแผนที่ให้เห็นว่ามีจุดเสี่ยงตรงไหนบ้าง จุดไหนมีอุบัติเหตุมาก-น้อยแค่ไหน จุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยก็จะเป็นสีแดงขึ้น และสามารถเข้าไปเร่งรัดปรับปรุงแก้ไขในจุดนั้นๆได้” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว
สำหรับการกำหนดแผนที่จุดเสี่ยงดังกล่าว เป็นหนึ่งในนโยบาย 214 ข้อ ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูลสถิติอาชญากรรมและข้อมูลการรายงานจุดเสี่ยงที่รวบรวมมาจากฐานข้อมูลในแผนที่ความเสี่ยงกรุงเทพฯ (Bangkok Risk Map) เพื่อให้มีการวิเคราะห์และนำข้อมูลเหล่านั้นมาพัฒนาสภาพแวดล้อม การบริหารจัดการต่าง ๆ ของพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง ให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เช่น การปรับปรุงและเพิ่มแสงสว่าง กล้องวงจรปิด การจัดจุดตรวจเวรยามเทศกิจหมุนเวียน หรือประสานงานการทำงานร่วมกับตำรวจในการยกระดับความปลอดภัย เพื่อป้องกันการเกิดอาชญากรรม สร้างเมืองที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน
“ฝากพวกเรานะครับ หน้าฝนความเร็วก็ต้องลดลงด้วย ถนนออกแบบมาอย่างไรก็ตาม ถ้าเราขับเร็วมากสุดท้ายมันก็ยากที่จะให้เกิดความปลอดภัย 100% ได้ ก็ต้องช่วยกัน ทาง กทม.เอง ก็รับไปดูทุกจุด เพิ่มความปลอดภัยให้มากที่สุด แต่ก็ต้องขอความร่วมมือเรื่องการขับรถอย่าไปขับรถเร็ว ไม่ได้ถึงที่หมายเร็วขึ้นหรอก ก็ฝากเตือนใจประชาชนช่วยกันด้วย” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวย้ำ