xs
xsm
sm
md
lg

รายงาน "โควิด" แบบใหม่ นับเฉพาะป่วยมีอาการเข้า รพ. วันนี้รายงาน 2.5 พันราย เผยผับบาร์ผ่านประเมิน 94%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศบค.แจงยอดโควิดไทย 2.5 พันราย เป็นการรายงานยอดใหม่ คือ นับเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการและมา รพ. ไม่ใช่ยอดผู้ติดเชื้อทั้งหมด หลังสถานการณ์ในไทยดีขึ้น ชี้ป่วยหนัก-ดับแนวโน้มลดลง เผยผับบาร์ใน 31 จังหวัดที่เปิดได้ เข้ารับประเมินแล้ว 3,412 แห่ง ผ่านเกณฑ์ประเมิน 94% ส่วนเข้าประเทศวันแรกแบบไม่มี Test&Go รวม 1.97 หมื่นคน

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด 19 ประจำวัน ว่า ผู้ป่วยรายใหม่วันนี้รายงาน 2,560 ราย ติดเชื้อสะสม 4,457,580 ราย หายป่วย 5,605 ราย สะสม 4,391,307 ราย เสียชีวิต 34 ราย สะสม 30,081 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 36,192 ราย อยู่ รพ.สนาม HI CI 20,578 ราย และอยู่ใน รพ. 15,614 ราย จำนวนนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 846 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 417 ราย อัตราครองเตียงระดับ 2-3 หรือสีเหลืองสีแดงอยู่ที่ 11.8% มีรายงานผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 6 ราย และติดเชื้อเดินทางจากต่างประเทศ 2 ราย

ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 34 ราย มาจาก 22 จังหวัด ได้แก่ นครพนม 6 ราย , กทม. 3 ราย , นครราชสีมา ร้อยเอ็ด ยโสธร เพชรบุรี ชัยนาท จังหวัดละ 2 ราย , สมุทรปราการ เลย อุดรธานี หนองคาย สกลนคร เชียงใหม่ สุโขทัย สุราษฎร์ธานี ยะลา พระนครศรีอยุธยา ระยอง สุพรรณบุรี ฉะเชิงเทรา ราชบุรี และตราด จังหวัดละ 1 ราย ผู้เสียชีวิตเป็นชาย 23 ราย หญิง 11 ราย อายุ 38 - 95 ปี อายุเฉลี่ย 72 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 100%

ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด 19 เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2565 จำนวน 117,528 โดส สะสม 137,880,593 โดส เป็นเข็มแรก 56,763,884 ราย คิดเป็น 81.6% เข็มสอง 52,709,567 ราย คิดเป็น 75.8% และเข็ม 3 ขึ้นไป 28,407,142 ราย คิดเป็น 40.8% ภาพรวมผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ฉีดเข็ม 3 แล้ว 44.7% ส่วนเด็กอายุ 5-11 ปี ฉีดเข็มแรกแล้ว 3.03 ล้านคน คิดเป็น 59% และเข็มสอง 1.73 ล้านคน คิดเป็น 33.7%

พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผอ.สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ในฐานะผู้ช่วยโฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำสัปดาห์ ว่า จากมติ ศบค.ผ่อนคลายเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ได้ยกเลิกการเข้าประเทศในระบบ Test&Go ซึ่งหากเป็นคนไทยเข้าประเทศๆได้เพียงเตรียมเอกสารรับรองฉีดวัคซีน ส่วนต่างชาติ มี 2 รูปแบบ คือ VIP เตรียมเอกสารวัคซีน ประกันชีวิต 1 หมื่นเหรียญ ร่วมพาสปอร์ต หากไม่ฉีดวัคซีนเข้ามาได้ แบบที่ 2 คือ TIP คือ มีผลตรวจ RT-PCR เป้นลบ 72 ชั่วโมงก่อนเข้าไทย หากไม่ตรวจเข้ามาถึงต้องตรวจ ATK โดยเจ้าหน้าที่ ร่วมกับทำประกันชีวิตและพาสปอร์ตเช่นกัน

สำหรับผู้เดินทางเข้ามาวันที่ 1 มิ.ย. หลังยกเลิก Test&Go และลงทะเบียนผ่าน Thailand Pass เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.เข้ามาทางอากาศ 19,767 คน โดยฉีดวัคซีนครบ 19,713 คน ไม่ได้ฉีดวัคซีน ใช้ผลตรวจ 54 คน ส่วนเข้ามาทางบก 34 ด่าน ผลการตรวจเมื่อเข้ามาถึงประเทศไทยมีรายงาน 2 คน ส่วนใหญ่เข้ามาหลังยกเลิก Test&Go พบผู้ติดเชื้อน้อยมาก

ส่วนการเปิดสถานบันเทิง ผับบาร์ คาราโอเกะ ในพื้นที่สีเขียว 14 จังหวัด และสีฟ้า 17 จังหวัด ซึ่งขายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถึงเที่ยงคืน กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมกับ กทม. ตำรวจ สุ่มตรวจเยี่ยมสถานบันเทิงว่าเป้นไปตามมาตรฐาน และมาตรการสาธารณสุขหรือไม่ ซึ่งการเปิดกิจการต้องผ่านการประเมิน Thai Stop COVID 2+ พนักงานรับวัคซีนเข็มกระตุ้น ส่วนใหญ่เป็นสถานที่ปิดและมีการใช้เวลาร่วมกันของกลุ่มคนเป็นเวลานาน ต้องตรวจ ATK สัปดาห์ละครั้ง ซึ่งกรมอนามัยรายงานว่ามีจำนวนสถานบันเทิงทั่วประเทศรับการประเมินวันที่ 23-30 พ.ค. ทั่วประเทศ 3,761 แห่ง มี 3,522 แห่ง หรือ 94% ผ่านการประเมิน Thai Stop COVID2+ แล้ว ส่วนพื้นที่สีเขียวและสีฟ้าที่เปิดได้นั้น มีร้านสถานบันเทิงประเมิน 3,412 แห่ง ผ่านประเมิน 3,196 แห่ง คิดเป็น 94% ฝากผู้ที่ไปเป็นลูกค้า ก่อนเข้าร้านให้มองหาป้ายใบรับรองการผ่านการตรวจ เพื่อความปลอดภัยของตัวเองเมื่อไปเที่ยว หากเราไปแล้วยังไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือยังไม่ได้เข็มกระตุ้น ควรไปรับก่อน เพื่อความปลอดภัยในการใช้บริการ

"การเปิดผับบาร์คาราโอเกะ ศบค.ให้ ศปก.มท.และกรมอนามัย ติดตามสุ่มตรวจเป้นระยะ ถ้าไม่เป็นตามมาตรฐานความปลอดภัย จะได้รับการตักเตือน หากยังมีความเสี่ยงอยู่ อาจจะต้องให้พักปิดชั่วคราว เพื่อปรับปรุงให้ปลอดภัยมากขึ้น" พญ.สุมนีกล่าว

พญ.สุมนีกล่าวว่า ส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันที่ 1 มิ.ย. คือ การรายงานสถานการณ์โควิดของไทยวันนี้ มีการปรับรายงานเป้นตัวเลขผู้ติดเชื้อที่มีอาการและไปรับการรักษาในสถานพยาบาล คือ ผู้ป่วย จากเดิมที่เป็นผู้ติดเชื้ออาจมีอาการหรือไม่ก็ได้ ตอนนี้จะเน้นผู้ป่วยติดเชื้อและมีอาการไปรับบริการที่สถานพยาบาล โดยตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่วันนี้อยู่ 2,560 ราย แนวโน้มการป่วยหนักลดลงอย่างชัดเจน ทั้งปอดอักเสบและใส่ท่อช่วยหายใจ ส่วนผู้เสียชีวิตวันนี้ 34 ราย แนวโน้มก็ยังลดลง แต่ 100% ผู้เสียชีวิตยังเป็นกลุ่มเสี่ยง โดยเป้นผู้มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป 82% และมีโรคเรื้อรัง 18% โดย 53% ไม่ได้รับวัคซีนเลย แม้สถานการณ์จะดีขึ้น แต่กลุ่มเป้าหมายหลักที่มีความเสี่ยง ต้องไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้น คือ สูงอายุและเด็กเล็ก

"สถานการณ์โควิดในไทยมีแนวโน้มดีขึ้น จำนวนผู้ป่วย อาการหนัก และเสียชีวิตลดลง แต่ขณะนี้มีมาตรการผ่อนคลายกิจการกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น ต่อไปอาจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นได้บ้าง ขอความร่วมมือประชาชนคงมาตรการป้องกันตนเองครอบจักรวาล ไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เป็น 2 มาตรการหลักประชาชนในการดูแลป้องกันตนเอง ส่วน สธ.และสถานพยาบาลจะดูแลเตรียมความพร้อมดูแลรักษาโควิดสำหรับผู้ที่ต้องมารักษาที่ รพ. โดยมีการจัดการ 3 พอ คือ เตียงพอ ยาวัคซีนพอ และบุคลากรทางการแพทย์พอ ส่วนสถานประกอบการ โรงเรียน กิจการห้างร้านต่างๆ อยู่ภายใต้มาตรการ COVID Free Setting ไม่จำเป็นต้องตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ แต่ตรวจเมื่อมีอาการหรือมีความเสี่ยงสงสัยติดเชื้อ" พญ.สุมนีกล่าว

พญ.สุมนีกล่าวว่า ทั้งหมดเป้นการเตรียมพร้อมเพื่อให้ทุกคนอยู่ร่วมกับโควิดแบบรู้ทัน ป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโรคได้ เป้าหมายคือเพื่อกลับมาทำมาหากินและขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ คือ ประชาชนปลอดภัย เศณษฐกิจเข้มแข็ง ประเทศไทยแข็งแรง เป้นเป้าหมายของ สธ.ดำเนินงานช่วงนี้ หรือ Health for Wealth ส่วนการแถลงข่าวจะลดวันแถลงตามสถานการณ์ คือ เหลือเดือนละ 2 ครั้ง เป็นพฤหัสเว้นพฤหัส หากตรงกับวันประชุม ศบค.ใหญ่ก็จะเลื่อนไปเป็นวันประชุมใหญ่แทน


กำลังโหลดความคิดเห็น