"อนุทิน" ยันไมได้บังคับใส่หน้ากาก แต่เป็นคำแนะนำในการป้องกันตัว ส่วนจะใส่หรือถอดให้ประเมินความเสี่ยงด้วยตนเอง ถ้ารู้สึกว่าสถานที่-คนรอบตัวปลอดภัย แล้วอยากถอดหน้ากากก็ตัดสินใจเองได้ ส่วนกิจการเสี่ยงอย่างผับบาร์ พนักงานยังต้องเข้มใส่หน้ากาก อย่าเปิดเกินเที่ยงคือ จัดกิจกรรมเสี่ยงแพร่เชื้อ
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ตอบคำถามถึงกรณีมีกลุ่มคนร้องเรื่องการถอดหน้ากาก สถานการณ์จะผ่อนคลายถึงระดับใดจึงเสนอถอดหน้ากาก ใช้ชีวิตตามปกติ ว่า การถอดหรือใส่หน้ากาก ไม่เคยเป็นข้อบังคับใดๆ แต่เป็นแนวทางในการปฏิบัติตนเพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ แต่หลังจากได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการปฏิบัติตามใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ช่วยลดการติดเชื้อ ทำให้ตัวเองปลอดภัยมากขึ้น แม้วันนี้สถานการณ์คลี่คลายลง แต่การใส่หน้ากากไม่ได้เป็นผลเสีย ถ้าเราประเมินว่าสถานที่แต่ละแห่งมีความสุ่มเสี่ยงอย่างไร ถ้าไม่มีสุ่มเสี่ยง อยู่ท่ามกลางครอบครัว ญาติพี่น้อง ซึ่งเราต้องรู้ด้วยว่า คนเหล่านั้นไม่ได้ไปที่สุ่มเสี่ยงมาหรือไม่ได้มีความเสี่ยงใดๆ เราก็เปิดหน้ากากได้
"ถ้าสมมติเรารู้ว่าไม่ปลอดภัย อย่างวันนี้จะไปผับบาร์คาราโอเกะ ก็ขอร้องให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการ มีการสุ่มตรวจขอความร่วมมืออย่าเปิดเกินเที่ยงคืน หรืออย่ามีกิจกรรมอะไรที่ส่อไปในความสุ่มเสี่ยง ตรงนี้เป็นการประเมินแล้ว สุดท้ายที่เรายอมให้เปิดผับบาร์ กิจกรรมต่างๆขึ้นมา ก็เพื่อบาลานซ์กับทางเศรษฐกิจและสถานการณ์ที่ควรเป็น" นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินกล่าวว่า วันนี้โควิดยังอยู่หรือไม่ ก็ยังอยู่ ยังติดได้ไหมก็ยังติดได้ แต่ว่าอาการคนติดโควิดมันไม่มีความรุนแรง ถ้าเป็นคนปกติไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง 608 ถ้ารับวัคซีนแล้วก็ยิ่งมีความปลอดภัย ยิ่ง 3 เข็มก็ยิ่งปลอดภัยขึ้น ก็จะมีปัจจัยให้เกิดความมั่นใจว่า จะดำรงวิถีชีวิตอย่างไรที่เราไม่มีความสูญเสียในทุกๆ มิติ นี่คือความจำเป็นที่ต้องไปทำ ใส่ได้ก็ใส่ ถ้ารู้สึกว่าตรงนี้ปลอดภัยไม่อยากใส่ เราก็ประเมินสถานการณ์