5 องค์กรวิชาชีพแพทย์ ย้ำเชื้อ "ฝีดาษลิง" อยู่ในสัตว์ฟันแทะ แค่เจอในลิงเป้นครั้งแรกจึงเรียกฝีดาษลิง ยังไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษ เพื่อป้องกันฝีดาษลิง เหตุยังไม่มีการระบาดมาไทย และต่างประเทศระบาดในวงจำกัด และวัคซีนเป็นชนิดเชื้อเป็น มีความเสี่ยงมากในคนภุมิคุ้มกันต่ำ เผยฉีดวัคซีนแล้วภูมิอยู่ได้นานมากกว่า 80 ปี
เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 5 องค์กรวิชาชีพทางการแพทย์ ได้แก่ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย และสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย ออกประกาศเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ถึงคำชี้แจงเรื่องโรคฝีดาษวานร มีใจความโดยสรุปว่า ขอให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคฝีดาษวานร เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าใจ ทราบวิธีปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย และสามารถดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างปกติ ดังนี้ 1. โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสที่อยู่ในสัตว์ฟันแทะที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกา แล้วแพร่ไปสู่สัตว์ชนิดอื่น แต่มีรายงานครั้งแรกในลิงที่เลี้ยงไว้เป็นสัตว์ทดลอง จึงเรียกว่า ผีดาษวานร หรือฝีดาษลิง สัตว์ตระกูลลิง ไม่ใช่แหล่งรังโรค และยังไม่มีรายงานการพบเชื้อนี้ในสัตว์ประเภทฟันแทะในประเทศไทย
2.การติดเชื้อที่มีรายงานในอดีต มักเกิดในสัตว์เลี้ยง หรือคนที่อยู่ใกล้ชิดกับสัตว์ฟันแทะ แต่การระบาดที่เกิดขึ้นขณะนี้ยังไม่ทราบต้นตอที่แน่ชัด คาดว่าน่าจะมีความเชื่อมโยงกับสัตว์ป่าในทางใดทางหนึ่ง ยังต้องรอการสอบสวนโรคอีกพอสมควรก่อนชี้ชัดได้ว่าการระบาดมีมาจากสาเหตุใด 3.การแพร่เชื้อจากผู้ป่วย อาจจะเริ่มตั้งแต่มีอาการไข้ และจะแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้มากที่สุดในช่วงที่มีตุ่มน้ำตามตัว ซึ่งต่างจากโควิดที่แพร่ได้แม้ผู้ติดเชื้อยังไม่มีอาการ จึงสามารถหลีกเลี่ยงการสัมผัสโรคได้ง่ายกว่า
4.การระบาดในประเทศต่าง ยังไม่กว้างขวางมากถึงจุดที่จะต้องห้ามการเดินทางเข้ามาของคนจากประเทศนั้นๆ อย่างไรก็ตาม หากพบนักเดินทางจากประเทศที่มีรายงานการพบโรค มีอาการไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ แนะนำให้ไปรับการตรวจวินิจฉัยโดยเร็ว โดยเฉพาะผู้ที่มีผื่นและตุ่มน้ำใสตามแขนขาและใบหน้าหลังจากมีไข้แล้ว 2-3 วัน 5. ถ้ามีการติดเชื้อ ส่วนใหญ่จะหายได้เองโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ ไว้ตามร่างกายหากไม่มีการติดเชื้อแทรกซ้อน ผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ อาจมีอาการรุนแรง องค์การอนามัยโลกระบุว่าโรคนี้มีอัตราตายประมาณ 3.6%
6.หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับนักเดินทางที่มีอาการตามข้อ 4 และมาจากประเทศที่มีรายงานการระบาด 7. การสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย และการล้างมือหลังการสัมผัสผู้ป่วย เป็นวิธีการที่ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อได้ดี 8.หลีกเลี่ยงการนำสัตว์ป่ามาเลี้ยงหรือบริโภค เพราะอาจนำเชื้อก่อโรคชนิดใหม่ๆ รวมทั้งฝีดาษวานรมาติดและแพร่ระบาดได้ และ 9.วัคซีนป้องกันไข้ทรพิษ จะป้องกันโรคฝีดาษวานรได้ด้วย แต่เนื่องจากประเทศไทยหยุดฉีดวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษมาแล้วเกือบ 50 ปี ดังนั้นผู้ที่อายุมากกว่า 50 ปี น่าจะมีภูมิคุ้มกันโรคนี้จากการปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ แต่ผู้ที่อายุน้อยกว่าจะไม่มีภูมิคุ้มกัน แต่มีโอกาสที่โรคนี้จะแพร่ระบาดมาถึงประเทศไทยได้น้อย จึงยังไม่มีความจำเป็นที่ประชาชนทั่วไปจะต้องเร่งรีบหาวัคซีนนี้
ด้าน ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ฝีดาษวานรหรือฝีดาษลิง (Monkeypox) ยังไม่พบผู้ป่วยในไทยและไม่เคยพบผู้ป่วยในไทยมาก่อน ปกติจะเจอผู้ป่วยในแอฟริกา แต่ตอนนี้ที่ทุกประเทศต้องกังวลและเพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง เนื่องจากมีการระบาดในบางประเทศยุโรปและพบผู้ป่วยในหลายประเทศ ที่บอกว่าไม่ได้มีประวัติไปแอฟริกามาก่อน แสดงว่ามีการแพร่กระจายเชื้อในประเทศนั้น อย่างไรก็ตาม พบว่าผู้ป่วยยังมีประวัติเชื่อมโยงถึงการเข้าร่วมกิจกรรมหนึ่งที่มีการรวมกลุ่มของคนจำนวนมากและจากหลากหลายประเทศ และมีกิจกรรมที่สัมผัสใกล้ชิดกันมากๆ จนทำให้ติดเชื้อในหลายประเทศ แต่ก็ยังเป็นการพบการแพร่เชื้อในวงจำกัดและเฉพาะกลุ่ม ซึ่งโรคนี้การติดเชื้อโดยหลักยังเป็นการต้องสัมผัสใกล้ชิดโดนสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ และแพร่ะเชื้อระยะที่มีอาการแล้ว เช่น มีตุ่ม หรือแผล ทำให้สังเกตได้ชัดเจน
ศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า 5 องค์กรวิชาชีพฯ ออกหนังสือชี้แจงกรณีโรคฝีดาษวานร มีระบุข้อหนึ่งว่า วัคซีนป้องกันไข้ทรพิษ จะป้องกันโรคฝีดาษวานรได้ด้วย แต่ยังไม่มีความจำเป็นที่ประชาชนทั่วไปจะต้องเร่งรีบหาวัคซีนนี้ เนื่องจากโรคนี้ยังถือเป็นการระบาดในวงจำกัดอยู่ในต่างประเทศ และประเทศไทยไม่เคยพบการติดเชื้อนี้มาก่อน ยังถือว่ามีความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคไม่มาก การให้วัคซีนฝีดาษวัวที่ป้องกันฝีดาษคนและฝีดาษวานรได้ด้วย จึงยังไม่มีความจำเป็นต้องเร่งรีบในขณะนี้ และคนที่เคยได้รับวัคซีนนี้แล้ว ก็ยังสามารถป้องกันโรคได้อยู่ มีการศึกษาพบว่าผ่านไป 80 ปีภูมิคุ้มกันก็ยังใช้ป้องกันได้ ซึ่งวัคซีนนี้เป็นแบบเชื้อเป็น มีความเสี่ยงมาก การให้ในคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ อาจทำให้เชื้อลามทั้งตัว และเสียชีวิตได้
ทั้งนี้ ประเทศไทยหยุดการให้วัคซีนนี้ไปหลายสิบปีแล้ว เนื่องจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า โรคนี้หมดไปในปี 2523 คนที่ได้รับการปลูกฝีแล้วยังสามารถป้องกันโรคได้ ส่วนคนที่ยังไม่ได้รับการปลูกฝี จากการประเมินตอนนี้ที่ไม่มีการระบาด การให้วัคซีนจึงยังมีความเสี่ยงกว่า แต่ถ้ามีการระบาดแน่นอนว่าอาจจำเป็น ค่อยดูอีกครั้ง แต่ตอนนี้ยังเป็นการระบาดในต่างประเทศแบบวงจำกัด ประเทศไทยยังไม่ได้มีความเสี่ยงต่อการระบาดมาก การให้วัคซีนจึงยังไม่มีความจำเป็น
“ความเสี่ยงของประเทศไทยตอนนี้ ยังไม่ถึงขั้นต้องรีบให้วัคซีน เพราะตอนนี้ยังเป็นการระบาดอยู่ในวงจำกัดในต่างประเทศ ต้องติดตามว่าจะมีการระบาดมากขึ้นหรือไม่ อย่างไร ซึ่งปัจจุบันคนกลัวเรื่องโรคระบาดมาก ทำให้เมื่อพบการติดเชื้อที่ผิดปกติก็จะมีการแจ้งเตือนเร็ว ทำให้แต่ละประเทศมีการเริ่มกลไกการรับมือ เฝ้าระวังได้เร็ว การจัดการปัญหาทำได้เร็ว ปัญหาก็น้อยลง”ศ.นพ.สมศักดิ์กล่าว