xs
xsm
sm
md
lg

"เท็ดรอส" นั่ง ผอ.ใหญ่ WHO อีกสมัย "อนุทิน" เผยมาเลเซียชงจัดซื้อยา-วัคซีนรวมในอาเซียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"อนุทิน" เผยผลเลือกตั้ง "เท็ดรอส" เป็น ผอ.ใหญ่ WHO อีกวาระ การประชุมราบรื่น ส่วนหารือทวิภาคี รมว.สธ.มาเลเซีย เสนอจัดซื้อยาและวัคซีนรวมในภุมิภาคอาเซียน ไทยพร้อมแชร์ปลดล็อกกัญชากัญชง ขอ WHO ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สนับสนุนงานด้านสาธารณสุขผ่าน 2 ศูนย์อาเซียนที่ตั้งในไทย

เมื่อวันที่ 25 พ.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าการนำคณะผู้บริหาร สธ. เข้าร่วมประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) สมัยที่ 75 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-28 พ.ค. 2565 ที่นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ว่า การประชุมวันที่ 23 พ.ค. ตนได้กล่าวถ้อยแถลงหัวข้อ “Health for Peace and Peace for Health” ย้ำถึงนโยบายสาธารณสุขของไทยที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของประชาชนอย่างเท่าเทียม ด้วยนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าเป็นพื้นฐานที่นำไปสู่สังคมที่สงบสุข พร้อมเรียกร้องให้สมาชิกองค์การอนามัยโลก (WHO) ทุกประเทศ ร่วมกันช่วยเหลือสนับสนุนด้านสาธารณสุขแก่ผู้ที่ตกอยู่ในภาวะสงคราม และคุ้มครองเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ที่ทำงานในแนวหน้า ซึ่งการร่วมกันดูแลสุขภาพของประชากรของทุกประเทศ ต้องอยู่เหนือความขัดแย้งทั้งปวง และประเทศไทยยังคงมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับประชาคมโลกในการไปสู่เป้าหมายดังกล่าว


สำหรับการประชุมสมัชชาอนามัยโลกครั้งนี้ มีวาระสำคัญ เช่น การเลือกตั้ง ผอ.ใหญ่องค์การอนามัยโลก ซึ่งนายเท็ดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ได้รับการเลือกตั้งอีกวาระเป็นสมัยที่ 2 การเตรียมความพร้อมและการรับมือกับภัยฉุกเฉินด้านสาธารณสุข ซึ่งประเทศไทยได้นำเสนอและแบ่งปันประสบการณ์การรับมือภาวะฉุกเฉินกรณีโควิด 19 ต่อประเทศสมาชิก นอกจากนี้ ระหว่างการประชุมได้หารือทวิภาคีกับ รมว.สาธารณสุข ประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีการแสดงความยินดีที่ไทยและมาเลเซียเริ่มเปิดพรมแดนทั้งทางอากาศ ทางบก และทางน้ำ หลังดำเนินมาตรการที่เข้มงวดในช่วงการระบาดของโควิด 19 โดย รมว.สาธารณสุขมาเลเซียชื่นชมความก้าวหน้าการพัฒนาวัคซีนโควิด 19 ในไทย และเสนอเรื่องการจัดซื้อรวมของภูมิภาคอาเซียน ไม่เฉพาะยาและวัคซีนสำหรับโควิด แต่รวมถึงยาประเภทอื่นๆ เช่น ยารักษาโรคเขตร้อนต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังแลกเปลี่ยนความคืบหน้านโยบายสนับสนุนการใช้กัญชา กัญชงทางการแพทย์และเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจของรัฐบาลไทย ซึ่งไทยยินดีแบ่งปันประสบการณ์การดำเนินการทางนโยบายและทางปฏิบัติ รวมถึงยังได้เชิญ รมว.สาธารณสุขมาเลเซียเข้าร่วมการประชุม APEC High level meeting ระหว่างวันที่ 24-26 ส.ค. 2565 และพิธีการเปิดศูนย์ ACPHEED ในช่วงเวลาเดียวกัน ที่กรุงเทพฯ ด้วย

ส่วนการหารือทวีภาคีกับ รมว.สาธารณสุข ประเทศคาซัคสถาน ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และการดูแลสุขภาพขั้นปฐมภูมิ ซึ่งรัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับทั้ง 2 นโยบายอย่างต่อเนื่องในเวลาหลายปีที่ผ่านมา เพื่อความมั่นคงด้านสุขภาพของประชาชน โดยมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เป็นกลไกที่แข็งแกร่งในการดูแลสุขภาพขั้นปฐมภูมิ มีการพัฒนาระบบให้แข็งแรงและยั่งยืน และพร้อมแบ่งปันประสบการณ์ แนวทางปฏิบัติแก่ประเทศอื่นๆ


ขณะที่การหารือกับ ดร.พูนาม เคตราปาล ซิงห์ ผอ.องค์การอนามัยโลก ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประเด็นความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างรัฐบาลไทยกับสำนักงานองค์การอนามัยโลก ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย ดร.พูนาม ได้ชื่นชมประเทศไทยเกี่ยวกับการบริหารจัดการเพื่อกระจายวัคซีนโควิด 19 การสื่อสารกับประชาชนในประเด็นต่าง ๆ ในช่วงการเกิดโรคระบาด ซึ่งการที่ไทยเป็นที่ตั้งของศูนย์อาเซียนด้านการรับมือกับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ (ACPHEED) และ ศูนย์อาเซียนเพื่อผู้สูงวัยอย่างมีศักยภาพและนวัตกรรม (ASEAN Center for Active Aging and Innovation :ACAI) จะเป็นโอกาสดีที่องค์การอนามัยโลก ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะให้การสนับสนุนด้านสาธารณสุขแก่ประเทศในภูมิภาคอาเซียนอย่างทั่วถึงผ่านศูนย์ดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันมีเพียง 3 ประเทศอาเซียน ได้แก่ ไทย เมียนมา และอินโดนีเซีย ที่เป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


กำลังโหลดความคิดเห็น