xs
xsm
sm
md
lg

วินัยจราจรสะท้อนวินัยชาติและนิสัยคน / ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ถนนในซอยหน้าหมู่บ้านมีการปรับปรุงซ่อมแซมทั้งซอย ทำให้ต้องมีการปรับเส้นทางเดินรถ เจ้าลูกชายคนเล็ก “สิน สิทธิสมาน” ขับรถเข้าออกหมู่บ้านแต่ละครั้ง สังเกตถึงการใช้รถของผู้คนที่ไร้วินัยแบบรายวัน ได้สะท้อนมุมมองผ่านบทความนี้

...................................

วินัยจราจรสะท้อนวินัยชาติ

ประโยคนี้ เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนคงเคยพบผ่านตากันมานาน โดยส่วนตัวผมค่อนข้างเห็นด้วยนะ เพราะประเทศที่คนมีวินัยจราจรสูง วินัยของคนในชาติก็มักสูงตามเช่นกัน

ยกตัวอย่าง ญี่ปุ่น เป็นต้น

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ผู้คนมีระเบียบวินัยมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก ทั้งบนท้องถนน ที่ไม่ว่าใครได้ไปเจอกับตัวเอง ก็ต่างชื่นชมกันทั้งนั้น หรือแม้กระทั่งในสถานการณ์วิกฤติต่าง ๆ เช่น สึนามิ แผ่นดินไหว เราก็ยังเห็นผู้คนในประเทศนี้ยืนเข้าแถวซื้อของกันอย่างเป็นระเบียบ ไม่มีการแซงคิวหรือแก่งแย่งสิ่งของกัน แม้แต่ในสถานการณ์วิกฤตสุด ๆ

ก็แน่นอนล่ะ ถ้าเรามองกลับมาที่ประเทศไทย วินัยบนท้องถนนของคนในชาติเรายังต่างกับประเทศเค้าอยู่มากทีเดียว

จริง ๆ ก็มีหลายเหตุการณ์ที่ผมประสบพบเจอกับตัวเอง แต่ถ้าจะให้พูดทั้งหมด คิดว่าพูดทั้งวันก็คงไม่หมดเป็นแน่ งั้นขอยกแค่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ถนนหน้าหมู่บ้านละกัน

ถนนหน้าหมู่บ้านผม เป็นถนน 2 เลนธรรมดาที่รถสวนทางกันฝั่งละเลน ทางเข้าหมู่บ้านจะมีสัญลักษณ์แถบตารางเส้นทเเยงสีเหลืองบนพื้นถนน ภาษาทางการคือพื้นที่ต้องห้ามที่รถไม่ควรวิ่งทับ เพราะมันเป็นทางเข้าออกหน้าหมู่บ้าน หรือเข้าซอยย่อย แต่แทบทุกครั้งที่มีรถติดไฟแดงอยู่หัวถนน เขตห้ามหยุดรถสีเหลืองที่อยู่ห่างออกมาไม่มากที่ผมต้องใช้เป็นทางเลี้ยวเข้าหมู่บ้าน ผมแทบจะไม่เคยเจอรถคันไหนเว้นช่องไว้ให้ทางเข้าออกหมู่บ้านเลย

ครั้งแรก ๆ ที่เจอเหตุการณ์ลักษณะนี้ ก็มีอารมณ์หงุดหงิดอยู่บ้าง แต่ปัจจุบันนี้ก็บอกเลยว่ามันกลายเป็นเรื่องปกติ ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ จนเราต้องปรับอารมณ์ตัวเองไม่ให้หงุดหงิด และทำให้เราเริ่มเฉยชากับคนที่ไม่มีวินัยพวกนี้ไปแล้ว

เพราะถ้าไปตักเตือนต่อว่าพวกเขา ก็คงต้องต่อว่าคนอีกเป็นร้อย ๆ คนเป็นแน่แท้

ดีไม่ดีอาจเป็นเรื่อง !

เลยต้องใช้คาถา “ทนกันไป”

ที่พีคกว่านั้น ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ถนนหน้าหมู่บ้านผม มีการทำถนนใหม่ เพื่อยกระดับความสูงให้มีความสูงเท่ากับถนนสายหลัก เลยจำเป็นต้องเสริมฟุตบาท และปูถนนใหม่หมด โดยผู้รับเหมาปิดประกาศแจ้งว่าจะทำถนนทีละฝั่ง จึงต้องให้รถเดินทางเดียว

ทางการคือกทม.จึงเอาป้ายมาติดในแต่ละจุดของถนนจำนวนหลายป้ายว่า นับตั้งแต่นี้ไปถนนนี้จะจัดการจราจรแบบ One Way หรือเดินรถทางเดียวนั่นเอง

แน่นอนแหละครับว่า ถนนซอยที่รถเดินทางเข้าออกสวนเลนกันไปมาโดยตลอด อยู่ ๆ จะมาบังคับให้ใช้รถทางเดียว บางคนอาจจะยังไม่คุ้นชิน เลยอาจจะยังมีการเดินรถสวนเลนอยู่บ้างในช่วงแรก ๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่พอจะเข้าใจได้อยู่บ้าง แต่สิ่งที่ผมไม่เข้าใจเลย จนวันนี้ที่ถนนในซอยใกล้จะปรับปรุงเสร็จสมบูรณ์ จากวันแรกจนถึงวันนี้ราวๆ เกือบ 3 เดือน ที่ผมขับรถเข้าออกซอย ก็จะมีรถขับสวนเลนมาทุกวัน ไม่ว่าจะช่วงเช้า สาย บ่าย เย็น จนค่ำ

ขับรถสวนมาอย่างสนุกสนานราวกับว่า มันไม่มีป้ายติดอยู่ อย่างไรอย่างนั้น

นาน ๆ ทีก็จะมีตำรวจมาตั้งด่านจับปรับสักครั้ง

แต่พอตำรวจไป รถเดินสวนทางแบบผิดกฎจราจรก็มาอีก

และถึงแม้ว่าจะมีการแก้ไขสถานการณ์จากทางเจ้าหน้าที่เอาแผงปูนมากั้นทางเข้าฝั่งหนึ่งให้รถไม่สามารถเลี้ยวเข้ามาได้ แต่ก็จะมีผู้ที่ไร้วินัยจราจรเหล่านั้นสรรหาวิชามารในการสวนเลนเข้ามาให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์ ที่พยายามจะใช้ช่องที่เหลืออยู่เล็กน้อยที่เจ้าหน้าที่ปิดไม่มิด ในการแทรกเข้ามาได้ หรือแม้แต่รถยนต์บางคัน ที่เลือกขับเลยถนนสายนี้ แล้วเลี้ยวเข้าคอมมิวนิตี้มอลล์ แล้วมาเข้าถนนจากปากทางเข้าของมอลล์ที่เชื่อมอยู่กับถนนอีกทีนึง ทำให้ผมยอมใจเลยจริง ๆ กับการกระทำเหล่านี้

จนเราเห็นมันเป็นเรื่องปกติ และเหมือนถูกบังคับให้ชินชากับมันไปแล้ว

แล้วไอ้เจ้าพฤติกรรมแบบนี้เนี่ย เมื่อมีการทำซ้ำ ๆ บ่อย ๆ เกิดขึ้น การที่เราเห็นมันซ้ำ ๆ ทุกวัน ก็มักจะมีคนที่ทำดีมาตลอด เริ่มคิดว่า เฮ้ย ถ้าเราปฏิบัติตามกฎจราจรอยู่ตลอด แต่สุดท้ายมันก็มีคนแหกกฏอยู่ดี ถ้าเราไม่ทำ คนอื่นก็ทำอยู่ดี สุดท้ายก็อาจจะเข้าร่วมกับพฤติกรรมเหล่านี้ไปโดยปริยาย

นี่ผมแค่ยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิดจากถนนซอยบ้านตัวเองเท่านั้นนะ ยังไม่รวมเหตุการณ์ระหว่างทางอีกมากมาย

มันจึงทำให้เห็นชัดเหลือเกินว่า ถ้าคนไทย มีระเบียบวินัยจราจรมากกว่านี้ ประเทศเราจะมีสังคมที่น่าอยู่มากขึ้น เพราะวินัยจราจร มันสะท้อนถึงวินัยของคนในชาติ คุณภาพของคนในชาติ ลักษณะบุคลิกของคนในชาติ

นี่ก็ใกล้จะถึงวันเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแล้ว จากที่ผมฟังนโยบายของแต่ละท่าน ผมก็คิดว่าคนที่จะเข้ามาเป็นผู้ว่าฯ คงจะต้องหาทางแก้ปัญหาเรื่องเหล่านี้ด้วย

แต่จะว่าไปเรื่องวินัยจราจร ไม่ใช่เพียงแค่มีกฏหมายหรอก ผมคิดว่าไม่มีใครจะมาแก้ไขได้ ถ้าเราไม่เริ่มจากตัวเรา จากจิตสำนึกของเราเอง….


กำลังโหลดความคิดเห็น