ปลัด สธ.ห่วงกิจกรรมหยุดยาวเสี่ยงติดโควิด ทำแพร่ระบาดหลังเปิดเทอม 17 พ.ค.นี้ ย้ำประเมินตนเอง ตรวจ ATK ทันทีเมื่อมีอาการ พบผู้ติดเชื้อใน ร.ร.ทำตามแผนเผชิญเหตุ กรมอนามัยแจงสัมผัสเสี่ยงต่ำเรียนออนไซต์ปกติ เว้นห่าง 1 เมตร เสี่ยงสูงให้กักตัว 5+5 เว้นรับวัคซีนครบอาจให้เรียน เว้นห่าง 2 เมตร ติดเชื้อไม่ต้องปิดเรียน
เมื่อวันที่ 16 พ.ค. นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการเปิดเทอมวันที่ 17 พ.ค.นี้ ว่า แม้ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จะมีทิศทางลดลง แต่ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อจำนวนมากได้ โดยเฉพาะช่วงก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1/2565 ในวันที่ 17 พ.ค.นี้ มีวันหยุดติดต่อกัน 4 วัน ทำให้มีการเดินทางท่องเที่ยว มีกิจกรรมการรวมตัวทั้งผู้ปกครองและนักเรียนก่อนเปิดเรียน หากไม่ได้ป้องกันตนเองอย่างเต็มที่ตามมาตรการ อาจทำให้มีการติดเชื้อและแพร่เชื้อระหว่างกันได้โดยไม่รู้ตัว เนื่องจากสายพันธุ์โอมิครอนส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อมักไม่มีอาการ และเมื่อเปิดภาคเรียนแบบออนไซต์อาจเกิดการแพร่เชื้อภายในโรงเรียนจำนวนมากได้
"ก่อนกลับเข้าสู่ระบบการเรียนการสอนตามปกติ ขอให้ผู้ปกครอง นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ประเมินความเสี่ยงของตนเอง กรณีมีความเสี่ยงหรือมีอาการป่วยให้ตรวจ ATK ทันที หากผลตรวจเป็นบวกหรือติดเชื้อจะได้เข้ารับการรักษาต่อไป ขอย้ำว่า ไม่มีมาตรการบังคับตรวจ ATK ก่อนเข้าเรียน และไม่ได้กำหนดให้ต้องตรวจเป็นประจำทุก 3-5 วันหรือทุกสัปดาห์ แต่ขอให้ตรวจเมื่อมีความเสี่ยงหรือเมื่อมีอาการ" นพ.เกียรติภูมิกล่าว
นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า ส่วนมาตรการป้องกันการติดเชื้อให้ยึดตาม 6 มาตรการหลัก 6 มาตรการเสริม และ 7 มาตรการเข้มของกรมอนามัย เบื้องต้นแนะนำให้ป้องกันตนเองตลอดเวลา โดยสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือ ตรวจคัดกรอง ลดความแออัด และทำความสะอาด รวมถึงเข้ารับวัคซีนให้ครบ โดยกลุ่มเด็กมัธยมศึกษา อายุ 12-17 ปี ควรรับเข็มกระตุ้น และกลุ่มเด็กประถมศึกษา อายุ 5-11 ปี ควรรับวัคซีนเข็มปกติให้ครบ จะช่วยลดความเสี่ยงอาการรุนแรงและการเสียชีวิต ทั้งนี้ หากพบผู้ติดเชื้อในโรงเรียน ให้ปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุ ไม่จำเป็นต้องปิดทั้งโรงเรียนเหมือนที่ผ่านมา
ด้าน นพ.สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ขอให้สถานศึกษาปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุ กรณีพบผู้ติดเชื้อหรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ไม่ปิดชั้นเรียนหรือโรงเรียน สำหรับโรงเรียนประจำ เน้นมาตรการ Sandbox Safety Zone in School กรณีนักเรียน ครู หรือบุคลากร เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ เปิดเรียนออนไซต์ตามปกติ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเอง ประเมินความเสี่ยงไทยเซฟไทย เว้นระยะห่างของนักเรียนในห้องเรียนไม่น้อยกว่า 1 เมตร กรณีสัมผัสเสี่ยงสูง จัดการเรียนการสอน ปฏิบัติงาน ใน Quarantine Zone 5 วัน และติดตามสังเกตอาการอีก 5 วัน แต่หากรับวัคซีนโควิด 19 ครบและไม่มีอาการ ไม่แนะนำให้กักกัน ถ้ามีอาการตรวจ ATK ทันที ถ้าไม่มีอาการให้ตรวจครั้งแรกวันที่ 5 และตรวจครั้งสุดท้ายวันที่ 10 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ
กรณีนักเรียน ครู หรือบุคลากร เป็นผู้ติดเชื้อ ให้พิจารณาร่วมกับหน่วยบริการสาธารณสุข แยกกักกันที่โรงเรียน (School Isolation) กรณีไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย จัดการเรียนการสอนได้ตามความเหมาะสม เว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 2 เมตร งดกิจกรรมรวมกลุ่ม เน้นระบายอากาศ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด ติดต่อหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ตามระบบงานอนามัยโรงเรียน และทำความสะอาดห้องเรียน ชั้นเรียน สถานศึกษา และเรียนได้ตามปกติ
สำหรับโรงเรียนไป - กลับ หากเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ เปิดเรียนออนไซต์ตามปกติเช่นกัน กรณีสัมผัสเสี่ยงสูงไม่ได้รับวัคซีน ทั้งมีอาการและไม่มีอาการ ให้กักตัว 5 วัน สังเกตอาการ 5 วัน หากรับวัคซีนครบไม่มีอาการ ไม่แนะนำให้กักกัน พิจารณาให้ไปเรียนได้ ตรวจ ATK ทันทีถ้ามีอาการ ถ้าไม่มีอาการ ให้ตรวจวันที่ 5 และ 10 เช่นกัน กรณีพบผู้ติดเชื้อให้แยกกักกันที่บ้าน พิจารณาจัดทำ School Isolation จัดรูปแบบการเรียนการสอนอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีอาการ และทำความสะอาดห้องเรียน ชั้นเรียน สถานศึกษา และเปิดเรียนตามปกติ เว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 2 เมตร สำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและผู้ติดเชื้อ