สสส.-วัดชลประทานฯ ชวนชาวพุทธ ‘กระทำดี’ วันวิสาขบูชา ทำบุญให้สุขยุค Next Normal แนะ เคล็ดลับใส่บาตร-ถวายภัตตาหารได้บุญสูงสุด ใช้สูตร 4 เสริม 2 ลด เสริมข้าวกล้อง-ผัก-ปลา-นมพร่องมันเนย ลดหวาน-เลิกถวายบุหรี่ ชู โมเดล “วัดบันดาลใจ” ต้นแบบสร้างบุญใหญ่ผ่านการลงมือทำ
พระปัญญานันทมุนี เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์ พระอารามหลวง จ.นนทบุรี กล่าวว่า วันวิสาขบูชานี้ พุทธศาสนิกชนควรทำบุญด้วยหลักการปฏิบัติง่าย ๆ ตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า คือ “การกระทำดี” มีหลักสำคัญ 5 ประการ คือ เป็นระเบียบ เรียบง่าย ประโยชน์สูง ประหยัดสุด และถูกต้องตามหลักธรรมวินัย วัดมีส่วนสำคัญทำให้การกระทำความดีเกิดขึ้น ซึ่งวัดชลประทานฯ ได้สร้างพื้นที่และสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อพุทธศาสนิกชนในการทำบุญ ทำทาน รักษาศีล เจริญจิตภาวนา เพื่อให้จิตใจเบิกบาน เกิดความดีความงาม
“วัดเป็นพื้นที่พบสุขด้วยการทำบุญในยุคใหม่ Next Normal ที่ผ่านมา วัดชลประทานฯ ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่าย จัดอบรมหลักสูตรการเรียนรู้ดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิต ด้วยการใช้ศิลปะบำบัดจิตใจ หลักสูตรบุญเรียนรู้ดิจิทัลพัฒนาชีวิตยุค 4.0 เพิ่มทักษะการใช้เทคโนโลยีให้กับผู้สูงอายุและเยาวชน นอกจากนี้ ได้เปิดพื้นที่บูชาบุคคลด้วยบุญดิจิทัลอัฐิ พิธีสวดมนต์ให้ผู้วายชนม์ผ่านออนไลน์ วันวิสาขบูชานี้ วัดชลประทานฯ จัดงาน “รู้ตื่น เบิกบาน วันวิสาขบูชา” กิจกรรมทางพุทธศาสนาที่มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพทั้งกายและใจ” พระปัญญานันทมุนี กล่าว
นายพงษ์ศักดิ์ ธงรัตนะ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร สสส. กล่าวว่า สสส. มุ่งส่งเสริมให้เกิดเครือข่ายการสร้างสุขภาวะองค์รวมให้กับสังคม โดยเฉพาะการนำฐานทุนของวัด ที่ถือเป็นรากฐานในการพัฒนาชุมชนและสังคม เป็นเครื่องชี้นำทางปัญญาและการปฏิบัติตน นำไปสู่การส่งเสริมสุขภาวะที่ดีทุกมิติ ที่ผ่านมา ได้ขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์ให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด ผ่านโครงการสงฆ์ไทยไกลโรค สนับสนุนให้พระสงฆ์เป็นแกนนำความรู้ในการดูแลสุขภาวะตนเอง และเผยแพร่แก่ชุมชนและสังคมในวงกว้าง รวมถึงผลักดันให้เกิดโครงการวัดบันดาลใจ พัฒนาวัด โดยเป็นวัดศูนย์การเรียนรู้ในการสร้างเสริมสุขภาวะ ทั้งนี้มุ่งให้ผู้เข้าชม ทั้งพระภิกษุสงฆ์ หรือฆราวาส สามารถนำบทเรียนและแรงบันดาลใจที่ได้ไปปรับใช้ทั้งในการดูแลพัฒนาวัด หรือนำกลับไปปรับใช้กับชีวิตวิถีใหม่ที่บ้านและที่ทำงานได้
“วันวิสาขบูชานี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้มิติใหม่ของการทำบุญ สร้างความสุขให้เกิดความสมดุลในการดำเนินชีวิต วัดยุคใหม่มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนานวัตกรรมในการทำบุญ รวมถึงพระสงฆ์มีการให้ความรู้แก่พุทธศาสนิกชน เสริมสร้างสุขภาวะที่ดี เน้นวิถีปฏิบัติที่เรียบง่ายให้พุทธศาสนิกชนได้ทั้งบุญและสติ” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
ศ.ดร.ภญ.จงจิตร อังคทะวานิช หัวหน้าโครงการสงฆ์ไทยไกลโรค สสส. กล่าวว่า การถวายภัตตาหารและการใส่บาตรพระสงฆ์ เป็น 1 ทางเลือกของผู้ทำบุญ วันวิสาขบูชานี้ ควรทำบุญในรูปแบบใหม่ให้ได้บุญสูงสุด คือ จัดอาหารให้มีประโยชน์ดูแลสุขภาพพระสงฆ์ เพื่อลดความเสี่ยงเกิดโรค โดยใช้แนวคิด 4 เสริม 2 ลด เสริมข้าวกล้อง ที่ส่งผลดีต่อหลอดเลือดหัวใจและการขับถ่าย ผัก ปลา และนมพร่องมันเนย รวมถึงจัดเตรียมน้ำปานะลดน้ำตาล สูตรหวานน้อย และลด ละ เลิกถวายบุหรี่ ลดปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ ทำให้พระสงฆ์ไทยไกลโรค สุขภาพดี เสริมภูมิคุ้มกันแด่พระสงฆ์ ผู้ที่สนใจติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ สงฆ์ไทย ไกลโรค https://sonkthaiglairok.com
นางสาวปริยาภรณ์ สุขกุล ผู้จัดการโครงการวัดบันดาลใจ สสส. กล่าวว่า “บุญกร” คือ กลุ่มจิตอาสาวิชาชีพ ผู้สร้างบุญ ผ่านการลงมือทำ โดยการนำหลักการออกแบบทางสถาปัตย์และภูมิสถาปัตย์ มาสร้างสรรค์พื้นที่วัดให้รมณีย์ หรือเอื้อให้เกิดสุขภาวะทาง กาย ใจ ปัญญา สังคม วัดจะกลายเป็นพื้นที่พัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนในสังคมได้ ถือเป็นหลักการขับเคลื่อนโครงการวัดบันดาลใจ ของ สสส. ที่พลิกฟื้นวัดสู่การเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชน ออกแบบสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการใช้ประโยชน์ของทุกกลุ่ม ทำให้พระสงฆ์และฆราวาสมีพื้นที่จัดกิจกรรมทางพุทธศาสนา อาทิ วัดดาวเรืองจ. ชัยภูมิ ปรับพื้นที่ศาลาการเปรียญเป็นศูนย์การเรียนรู้สุขภาพ เกิดพื้นที่สร้างกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชน วัดญาณเวศกวัน จ.นครปฐม ปรับปรุงอาคารด้านหน้าเป็นศูนย์ข้อมูลสำหรับแจกหนังสือของวัด ให้เป็นสถานที่สร้างเสริมสุขภาวะทางปัญญา ถือเป็นแนวคิดในการทำบุญผ่านการลงมือทำ มุ่งเป้าขยายผลให้เกิดวัดศูนย์การเรียนสุขภาวะวิถีพุทธ กับวัดอีก 29 แห่ง ทั่วประเทศ ภายใต้โครงการบันดาลใจภายในปี 2565