xs
xsm
sm
md
lg

เด็กต่ำกว่า 10 ขวบป่วย "ตับอักเสบเฉียบพลัน" ปริศนาเพิ่มขึ้น คาด "โควิด" ทำภูมิลด ไทยยังไม่พบรายงาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



WHO เตือนพบเด็กต่ำกว่า 10 ขวบ ป่วยตับอักเสบเฉียบพลันมากขึ้น พบ 1 ใน 3 ติดเชื้อ Adenovirus บางรายมีโควิดร่วมด้วย คาดการระยาดโควิดทำภูมิต่อเชื้อ Adenovirus ลดลง หรืออาจมีการกลายพันธุ์ หรือเกี่ยวกับเชื้อโควิด ส่วนประเทศไทยยังไม่พบ
เมื่อวันที่ 5 พ.ค. นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า มีประกาศแจ้งเตือนจากองค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่า มีผู้ป่วยเด็กเป็นตับอักเสบเฉียบพลันเพิ่มสูงขึ้น ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยเด็กที่อายุน้อยกว่า 10 ปี มีอาการท้องเสีย อาเจียน มักไม่มีไข้ ต่อมาพบว่ามีตับอักเสบรุนแรงตามมา และพบว่าร้อยละ 10 ของผู้ป่วยเกิดภาวะตับวายตามมา โดยสาเหตุไม่ได้เกิดจากไวรัสตับอักเสบชนิดเอ-อี โดยหนึ่งในสามของผู้ป่วยตรวจพบการติดเชื้อ Adenovirus และในผู้ป่วยบางรายมีการติดเชื้อ SARS-CoV-2 ร่วมด้วย ทั้งนี้ Adenovirus เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ซึ่งติดต่อโดยการสัมผัสใกล้ชิด ละอองฝอยของสิ่งคัดหลั่งทางระบบทางเดินหายใจ สัมผัสจากสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อ โดยมีเกือบ 50 สายพันธุ์

"ส่วนใหญ่ผู้ป่วยเด็กมักมาด้วยอาการทางระบบทางเดินหายใจเป็นหลัก โดยทั่วไป Adenovirus ไม่ทำให้เกิดตับอักเสบในเด็กที่มีภูมิคุ้มกันปกติ จึงมีข้อสันนิษฐานว่าในช่วงการระบาดของโรคโควิด 19 ที่ผ่านมา ทำให้ภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ Adenovirus ในเด็กน้อยลง เนื่องจากการติดเชื้อลดลง หรืออาจมีการกลายพันธุ์ของเชื้อ Adenovirus หรืออาจเกี่ยวข้องกับเชื้อโควิด ทำให้ผู้ป่วยเด็กที่มีภูมิคุ้มกันปกติเมื่อติดเชื้อ Adenovirus แล้วเกิดตับอักเสบรุนแรงตามมาได้" นพ.สมศักดิ์กล่าว

นพ.อดิศัย ภัตตาตั้ง ผอ.สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) กล่าวว่า ตับอักเสบเฉียบพลัน คือ ภาวะที่มีการอักเสบของตับอย่างเฉียบพลัน โดยผู้ป่วยมักมีอาการไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะสีเข้ม อุจจาระสีซีด โดยสาเหตุของตับอักเสบเฉียบพลันในเด็ก อาจเกิดจากการติดเชื้อ เช่น ไวรัสตับอักเสบเอ - อี ไข้เลือดออก ยา/สารพิษ ภูมิคุ้มกันทำลายตับ หรือโรคพันธุกรรมทางตับ เป็นต้น สำหรับการรักษา ขึ้นกับสาเหตุที่ทำให้เกิดตับอักเสบเฉียบพลัน ส่วนตับอักเสบเฉียบพลันซึ่งเกิดจากการติดเชื้อ Adenovirus นั้น การรักษาส่วนใหญ่เป็นการรักษาตามอาการ ไม่มียารักษาเฉพาะ ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงจนเกิดภาวะตับวาย ผู้ป่วยมักมีการเปลี่ยนแปลงของระดับการรับรู้ ซึมลง เลือดออกผิดปกติ และอาจเสียชีวิตได้ ถ้าไม่ได้รับการปลูกถ่ายตับ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าพบการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบจากการติดเชื้อ adenovirus ในประเทศไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น