สปสช.แจง “ฝังยาคุมกำเนิด” ฟรีผ่านแอปเป๋าตัง เป็นสิทธิประโยชน์สำหรับหญิงไทยทุกสิทธิการรักษา กำหนดหลักเกณฑ์ชัด กรณีอายึต่ำกว่า 20 ปี ที่ต้องการคุมกำเนิด ภาวะหลังคลอดหรือแท้ง ส่วนอายุเกิน 20 ปี เฉพาะหลังยุติตั้งครรภ์ เตรียมเพิ่มข้อความให้ชัด
เมื่อวันที่ 4 พ.ค. ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การขอรับฝังยาคุมกำเนิดฟรีผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ว่า เรื่องนี้เป็นบริการคุมกำเนิดกึ่งถาวร ภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) นอกจากบริการใส่ห่วงอนามัยแล้ว ยังรวมถึงบริการฝังยาคุมกำเนิด รวมถึงลดการเสียชีวิตและภาวะแทรกซ้อนจากการยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัยโดยกำหนดหลักเกณฑ์การรับบริการ ดังนี้ 1.กลุ่มอายุต่ำกว่า 20 ปีที่ต้องการคุมกำเนิด หรืออยู่ในภาวะหลังคลอด หรือหลังแท้ง และ 2 กลุ่มอายุ 20 ปีขึ้นไป เฉพาะกรณีหลังยุติการตั้งครรภ์โดยสามารถเข้ารับบริการบริการที่หน่วยบริการระบบบัตรทองหรือระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่ร่วมบริการตามความสะดวกได้
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า การบริการฝังยาคุมกำเนิด สปสช.ได้จัดสรรงบประมาณรองรับบริการให้กลุ่มเป้าหมายทุกสิทธิการรักษาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบริการใส่ห่วงอนามัย ซึ่งในปีงบประมาณ 2565 อยู่ที่จำนวน 103.21 ล้านบาท เหมาจ่ายบริการฝังยาคุมกำเนิดอัตรา 2,500 บาทต่อราย โดยในช่วง 6 เดือนของปีงบให้บริการแล้ว 10,439 ราย เบิกจ่ายค่าบริการ 39,871,800 บาท แยกเป็นหญิงอายุต่ำกว่า 20 ปี 9,280 ราย เบิกจ่าย 36,987,900 บาท และหญิงอายุ 20 ปีขึ้นไป กรณีหลังยุติตั้งครรภ์ 1,159 ราย เบิกจ่าย 2,883,900 บาท
"การเข้ารับบริการคุมกำเนิดกึ่งถาวรต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ซึ่งผู้หญิงอายุต่ำกว่า 20 ปี จะครอบคลุมทุกคนที่ต้องการรับบริการ แต่กรณีอายุ 20 ปีขึ้นไป กำหนดเฉพาะผู้ที่ยุติการตั้งครรภ์เท่านั้น สำหรับเสียงสะท้อน สปสช.รับฟังและนำมาปรับปรุง โดยในส่วนของแอปเป๋าตัง สปสช.ได้ประสานไปยังธนาคารกรุงไทยเพื่อเพิ่มเติมข้อความว่า “กรณีอายุเกิน 20 ปีให้อยู่ในดุลยพินิจของแพทย์” เพื่อขยายความให้ชัดเจนในการเข้ารับบริการ" ทพ.อรรถพรกล่าว
ทพ.อรรถพรกล่าวว่า บริการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคในแอปเป๋าตัง ประชาชนทุกคนสามารถตรวจสอบสิทธิที่จะได้รับตามกลุ่มวัยและเพศได้ โดยเข้าไปที่กระเป๋าสุขภาพ เมื่อลงทะเบียนแล้วจะปรากฏรายละเอียดสิทธิการรักษาพยาบาลของตนเอง และตรวจสอบสิทธิบริการสร้างเสริมสุขภาพที่ได้รับ เฉพาะในพื้นที่ กทม.ขณะนี้นำร่องสามารถจองคิวนัดหมายเข้ารับบริการที่หน่วยบริการได้