กรมควบคุมโรค ย้ำ 7 กลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี เริ่ม 1 พ.ค.นี้ ช่วยลดเสี่ยงอาการรุนแรงและภาวะแทรกซ้อน เผยฉีดร่วมกับวัคซีนโควิด 19 ได้ โดยฉีดแขนคนละข้าง ช่วยลดเสี่ยงการตายจากการติดเชื้อทั้ง 2 โรค พร้อมเข้มป้องกันตนเอง ใส่แมสก์ป้องกัน 2 โรค
เมื่อวันที่ 29 เม.ย. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ช่วงนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงร้อนสลับฝนตก และจะเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ที่เป็นฤดูกาลระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ อาจทำให้พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้นได้ ซึ่งโรคนี้เป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจเช่นเดียวกับโรคโควิด 19 และมีวัคซีนป้องกัน โดยจะฉีดปีละ 1 ครั้ง ซึ่งการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ในช่วงการระบาดของโรคโควิด 19 นอกจากจะช่วยลดความรุนแรงของการป่วยและการเสียชีวิตจากโรคแทรกซ้อนของโรคไข้หวัดใหญ่แล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นจากการติดเชื้อของทั้ง 2 โรค และลดอัตราการนอน รพ.ของผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่
สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลปีนี้ กรมควบคุมโรคร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เริ่มรณรงค์ฉีดวัคซีนระหว่างวันที่ 1 พ.ค. - 31 ส.ค. 2565 ในประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป (ให้บริการตลอดทั้งปี) 2.เด็กอายุ 6 เดือน - 2 ปี 3.ผู้มีโรคเรื้อรัง ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน 4.ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป 5.ผู้ที่เป็นโรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ 6.โรคอ้วน น้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม หรือมีดัชนีมวลกายมากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร และ 7.ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ นอกจากนี้ ได้เตรียมวัคซีนสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มีความเสี่ยงต่อการสัมผัสโรคไข้หวัดใหญ่ด้วย
นพ.โอภาส กล่าวว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ มีความจำเป็นแม้จะฉีดวัคซีนโควิด 19 ไปแล้ว เนื่องจากเป็นเชื้อไวรัสคนละชนิด ประชาชนควรได้รับวัคซีนทั้ง 2 ตัว โดยสามารถฉีดพร้อมกันได้ แนะนำให้ฉีดที่แขนคนละข้าง โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเสี่ยง เพื่อลดความรุนแรงของโรค และลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนได้ จึงขอให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงดังกล่าวเข้ารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่สถานบริการสาธารณสุขของรัฐใกล้บ้าน และสถานพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และขอความร่วมมือยังปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เช่นเดียวกับการป้องกันโรคโควิด 19