สถานการณ์ "โควิด" ประเทศไทยลดลงต่อเนื่อง เหลือเกือบ 1.5 หมื่นราย สอดคล้องภาพรวม 12 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด เริ่มลดลงเป็นระดับเกิน 300 ราย จังหวัดติดเชื้อต่ำกว่าร้อยรายเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดดับยังสูง 124 ราย เศร้า 1 เดือนตายจากโควิดด้วย
เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด 19 ประจำวัน ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14,994 ราย สะสม 4,180,868 ราย หายป่วย 23,524 ราย สะสม 3,978,469 ราย เสียชีวิต 124 ราย สะสม 27,899 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 174,500 ราย อยู่ใน รพ. 43,872 ราย อยู่ รพ.สนาม HI CI 130,628 ราย มีอาการหนัก 1,876 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 903 ราย อัตราครองเตียงสีเหลืองสีแดงอยู่ที่ 24.5%
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 124 ราย มาจาก 46 จังหวัด กทม.เสียชีวิตสูงสุด 13 ราย ตามด้วยอุบลราชธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น จังหวัดละ 7 ราย , สุโขทัย 5 ราย , เชียงใหม่ พิจิตร นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ กาญจนบุรี จังหวัดละ 4 ราย ที่เหลือเสียชีวิตจังหวัดละ 1-3 ราย โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือเสียชีวิตสูงสุด 43 ราย ภาคกลางและตะวันออก 26 ราย ภาคเหนือ 21 ราย ภาคใต้ 13 ราย และปริมณฑล 8 ราย ผู้เสียชีวิตเป็นชาย 68 ราย หญิง 56 ราย อายุ 1 เดือน - 100 ปี เฉลี่ย 73 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 96%
ส่วน 10 จังหวัดที่มีรายงานติดเชื้อรายใหม่สูงสุดคือ 1.กทม. 2,967 ราย 2.ชลบุรี 644 ราย 3.ขอนแก่น 598 ราย 4.สมุทรปราการ 561 ราย 5.นนทบุรี 424 ราย 6.ศรีสะเกษ 407 ราย 7.นครศรีธรรมราช 371 ราย 8.ร้อยเอ็ด 360 ราย 9.นครราชสีมา 348 ราย และ 10.บุรีรัมย์ 339 ราย โดยจังหวัดติดเชื้อเกิน 300 ราย มีอีก 2 จังหวัด คือ อุบลราชธานี 306 ราย และฉะเชิงเทรา 300 ราย
ระดับเกิน 200 ราย มี 8 จังหวัด ระดับ 100 รายขึ้นไปเพิ่มขึ้นเป็น 26 จังหวัด และจังหวัดที่ติดเชื้อไม่ถึง 100 ราย เพิ่มขึ้นเป็น 31 จังหวัด โดยจังหวัดที่ติดเชื้อน้อย เช่น ยะลา 13 ราย , เชียงราย 12 ราย , แม่ฮ่องสอน 7 ราย และชัยนาท 6 ราย เป็นต้น ส่วนรายงาน 0 ราย คือ จังหวัดลำพูน
สำหรับการติดเชื้อมาจากเรือนจำพบ 19 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 43 ราย ใน 14 ประเทศ โดยมาจากกัมพูชาและอังกฤษมากที่สุด ประเทศละ 8 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5 ราย ออสเตรเลีย เยอรมนี ประเทศละ 4 ราย ที่เหลือติดเชื้อประเทศละ 1-3 ราย โดยเข้าระบบ Test&Go 33 ราย แซนด์บ็อกซ์ 1 ราย กักตัว 9 ราย
ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด 19 เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2565 จำนวน 68,766 โดส สะสม 132,633,387 โดส เป็นเข็มแรก 56,155,863 ราย คิดเป็น 80.7% เข็มสอง 51,009,258 ราย คิดเป็น 73.3% และเข็ม 3 ขึ้นไป 25,468,266 ราย คิดเป็น 36.6%