xs
xsm
sm
md
lg

ถอดรหัสความสำเร็จตำบลสุขภาวะ “สองแคว-ดอนแก้ว” พื้นที่ต้นแบบรับมือสังคมสูงวัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


(กลุ่มอาชีพที่เกิดขึ้นจากโรงเรียนผู้สูงอายุ เทศบาลตำบลสองแคว อ.ดอยหล่อ)
นับถอยหลังเข้าไปทุกทีกับการก้าวเข้าสู่ “สังคมสูงอายุแบบสมบูรณ์” โดยตัวเลขจากการสำรวจ ประเทศไทยในปี 2565 จะพบผู้สูงอายุในวัย 60 ปีแตะ 13 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 20 ก่อนจะเพิ่มอย่างต่อเนื่องเป็นร้อยละ 30 ในปี พ.ศ.2578 เทียบให้เห็นภาพชัดที่สุดก็คือในจำนวนคน 100 คน จะเป็นผู้สูงอายุไปแล้ว 30 คน

ทั้งนี้ ยังพบอีกว่า คนไทยมีอัตราการเกิดลดลง และอายุเฉลี่ยสูงขึ้นเรื่อย ๆ อีกเช่นกัน ถึงตรงนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วประเด็นนี้เป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างไร แต่ถ้ามองลึกลงไป สังคมสูงอายุนั้นส่งแรงกระเพื่อมมากกว่าที่หลายคนคาด ตั้งแต่การขาดแคลนแรงงานในภาคเศรษฐกิจ ที่อาจส่งผลต่อการขยายตัวในระยะยาว การลงทุน เงินหมุนเวียนในประเทศ ภาระค่าใช้จ่ายของรัฐด้านสาธารณสุขและสวัสดิการจะเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากปัญหาสุขภาพที่ตามมา ซึ่งนับว่า เป็นเรื่องที่ท้าทายทั้งของรัฐบาล และทุก ๆ องค์กรที่เกี่ยวข้อง


สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เองก็เป็นหนึ่งในองค์กรที่ได้เตรียมความพร้อมรองรับสังคมผู้สูงอายุให้ครอบคลุมในทุก ๆ มิติ ผ่านทั้งการจัดสรรองค์ความรู้ ข้อเสนอเชิงนโยบาย กิจกรรมทางเลือกมากมาย และการดำเนินงานจริงระดับพื้นที่ เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่ สสส. ได้นำภาคีเครือข่ายลงพื้นที่ศึกษาดูงานและถอดบทเรียน 2 พื้นที่ตัวอย่าง “สองแคว-ดอนแก้ว” จ. เชียงใหม่ ที่ประสบความสำเร็จในการจัดระบบการดูแลผู้สูงอายุภายในชุมชน จากทั้งหมด 55 พื้นที่ทั่วประเทศ

(ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส.)
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. ได้กล่าวถึงบทบาทในการดำเนินงานครั้งนี้ว่า ในภาพรวม สสส. พัฒนาองค์ความรู้และข้อเสนอทางนโยบายทั้งการสนับสนุนกลไกเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในระดับพื้นที่ การสื่อสาร และการปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อกับการมีสุขภาวะที่ดี เน้นการออกแบบเพื่อทุกคน โดยมีกระบวนการทำงานเริ่มตั้งแต่การพัฒนาศักยภาพให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สามารถจัดการตนเอง ปัจจุบันจับคู่สถาบันวิชาการคู่ความร่วมมือ 12 แห่ง กับศูนย์เรียนรู้ระบบการดูแลผู้สูงอายุโดยชุมชนท้องถิ่น 67 แห่ง เป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษา และพัฒนาเป็นพื้นที่ต้นแบบการเรียนรู้ 10 แห่ง ผ่านการดำเนินงานของ 4 องค์กรหลัก ประกอบด้วย ท้องถิ่น ท้องที่ ภาคประชาชน และหน่วยงานรัฐในพื้นที่ รวมถึงเทศบาลตำบลสองแคว อ.ดอยหล่อ ต้นแบบด้านการพัฒนาระบบการดูแลผู้สูงอายุสู่ความเป็นเลิศ และ องค์การบริหารส่วนตำบลดอนแก้ว อ.แม่ริม ต้นแบบพัฒนาระบบการดูแลผู้สูงอายุ โดยชุมชนแบบบูรณาการ

“ฉะนั้นด้วยทุนทางสังคมเหล่านี้ ก็จะเกิดการพัฒนาระบบที่เหมาะสมสำหรับการแก้ปัญหาของแต่ละพื้นที่ ซึ่งไม่เหมือนกันในทุกพื้นที่ เขาต้องทำอย่างไรให้กลุ่มผู้สูงอายุเหล่านี้กลายเป็นกลุ่มที่ยังมีพลัง ไม่ได้มองว่า เป็นปัญหาของชุมน ซึ่งทั้งสองพื้นได้ใช้ 10 กลยุทธ์ในการทำงาน นั่นก็คือ 5 อ และ 5 ก ซึ่ง 5 อ ได้แก่ อาชีพ อาหาร ออกกำลังกาย ออม อาสาสร้างเมือง และ 5 ก ได้แก่ การป้องกันและลดอุบัติเหตุ การตั้งและพัฒนาโรงเรียนผู้สูงอายุ การพัฒนาชมรมผู้สูงอายุ การดูแลต่อเนื่อง การบริการกายอุปกรณ์ จนประสบผลสำเร็จผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี” ดร.สุปรีดา กล่าว

(กิจกรรมการแสดงโรงเรียนผู้สูงอายุฮอมสุข องค์การบริหารส่วนตำบลดอนแก้ว อ.แม่ริม)
ตลอดเวลาที่ผ่านมา กิจกรรมเกี่ยวกับผู้สูงอายุ เป็นสิ่งที่ สสส. ให้ความสำคัญไม่แพ้ช่วงวัยอื่น ผ่านการดำเนินงานหลากหลายรูปแบบ อาทิ ธนาคารเวลารองรับสังคมสูงวัย โรงเรียนผู้สูงอายุ การรู้เท่าทัน Fake News ห้องเรียนสูงวัย สุขภาพจิตลดซึมเศร้า ขยายอายุการทำงาน หรือการจ้างงานผู้สูงอายุ ซึ่งดร.สุปรีดา ก็ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้สูงอายุก่อนเกษียณ หรืออายุ 50 ปีขึ้นไป สสส. ก็มีการเตรียมแผนสำหรับวัยนี้ด้วยเช่นกัน โดยจะเป็นการเชิญชวนเข้ามาร่วมในกระบวนการดูแลและช่วยเหลือผู้ที่สูงอายุกว่า ซึ่งถือว่า เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับวัยก่อนเกษียณไปในตัว

(นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน)
ด้านอีกหนึ่งภาคีเครือข่ายที่ร่วมลงพื้นที่ดูงานในครั้งนี้อย่าง นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้กล่าวถึงบทบาทตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ว่าด้วยหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่มีหน้าที่ในการเสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้ทราบถึงปัญหาของหน่วยงานของรัฐที่ไม่ได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตามหมวด 5 หน้าที่ของรัฐในรัฐธรรมนูญ โดยหนึ่งในหน้าที่ของรัฐที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ก็คือรัฐพึงที่จะให้มีการดูแลสุขภาพอนามัยของคนทุกช่วงวัยให้มีความแข็งแรง มีสุขภาพที่ดี ซึ่งผู้สูงอายุก็เป็นกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งที่รัฐต้องดูแลในเรื่องสุขภาพอนามัย

“ที่ผ่านมาทั้งในส่วนราชการ ภาครัฐ สสส. และองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่งทั่วประเทศก็ที่ได้ขับเคลื่อนและเตรียมความพร้อมเรื่องนี้มานานหลายปี เพราะฉะนั้นถ้าได้มีการบูรณาการแนวทางการดูแลผู้สูงอายุกลุ่มต่าง ๆ เหล่านี้ร่วมกัน ก็จะได้รูปแบบและแนวทางการปฏิบัติที่ดี ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินจะมีหน้าที่บูรณาการการภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมสังเคราะห์และถอดบทเรียนเพื่อเป็นรูปแบบที่ปฏิบัติได้จริง พร้อมทำเป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายต่อครม. หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อนำไปพิจารณาขยายผล”

(นางลัดดา ไชยชนะ นายกเทศมนตรีตำบลสองแคว)
อีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญที่ส่งผลให้ตำบลสองแคว อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ กลายเป็นพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาระบบสร้างเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุที่ประสบความสำเร็จอย่าง นางลัดดา ไชยชนะ นายกเทศมนตรีตำบลสองแคว ก็ได้กล่าวว่า ตำบลสองแควแบ่งออกเป็น 8 หมู่บ้าน มีผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ในพื้นที่จำนวน 1,272 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ดังนั้น ในฐานะผู้บริหารจึงเห็นถึงความสำคัญของการดูแลผู้สูงอายุ จึงได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในเครือข่าย “ตำบลสุขภาวะ” ของ สสส. ก่อนที่จะทำการวิจัยชุมชนเพื่อรู้ถึงความต้องการและปัญหาหลักของผู้สูงอายุในพื้นที่ ก่อนจัดประชุมร่วมกับภาคีเครือข่าย เพื่อวางแผนจัดระบบการดูแลผู้สูงอายุโดยศักยภาพที่มีอยู่ในชุมชน

“เราประชุมวางแผนร่วมกันทั้งเครือข่ายท้องถิ่น ชนรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนการศึกษานอกระบบ วัด และสภาองค์กรผู้สูงอายุ จนได้เป็นระบบการดูแล แบ่งออกเป็น 7 ระบบอย่างครอบคลุม ได้แก่ 1) ระบบการพัฒนาศักยภาพและการนำใช้ข้อมูล ด้วยระบบข้อมูลตำบล หรือ TCNAP และการวิจัยชุมชน หรือ RECAP 2) ระบบการจัดพื้นที่ 3) ระบบบริการสุขภาพและการส่งเสริมสุขภาพ 4) ระบบจัดสวัสดิการและการช่วยเหลือ 5) ระบบการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำเนินชีวิต 6) ระบบการส่งเสริมอาชีพและลดรายจ่าย 7) ระบบการสร้างเสริมภาวะผู้นำและการช่วยเหลือกัน ทำให้ผู้สูงอายุได้รับประโยชน์ครบทุกมิติ ทั้งด้านสุขภาพกายใจ สังคม ภูมิปัญญา และสภาพแวดล้อม ผู้สูงอายุ 1 คน สามารถเข้าถึงบริการอย่างน้อย 1 ระบบ ทำให้ผู้สูงอายุได้รับบริการสาธารณะอย่างทั่วถึง”

นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว นางลัดดาได้กล่าวเสริมถึงระบบที่ต้องให้ความสำคัญตั้งแต่ต้น ซึ่งนั่นก็คือการค้นหาวิจัยข้อมูลภายในพื้นที่ เนื่องจากการทำงานต้องใช้ฐานข้อมูลที่เป็นจริงในการพัฒนา เพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดและเป็นประโยชน์สำหรับผู้สูงอายุ

(นายจั๋น ใจสุข อายุ 75 ปี ตัวแทนผู้สูงอายุจากกลุ่มจักรสานท่ามะโอ หมู่ 3)
และความสำเร็จเช่นนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากขาดความร่วมมือจากผู้สูงอายุในพื้นที่ โดยนายจั๋น ใจสุข หนึ่งในตัวแทนผู้สูงอายุจากกลุ่มจักรสานท่ามะโอ หมู่ 3 เทศบาลตำบลสองแคว อ.ดอยหล่อ กลุ่มอาชีพที่เกิดขึ้นจากโรงเรียนผู้สูงอายุ ก็ได้กล่าวขอบคุณเทศบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้เห็นถึงความสำคัญของผู้สูงอายุอย่างตน ที่ปัจจุบันมีอายุ 75 ปีแล้ว ซึ่งการเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเนื่องจากเห็นว่า เป็นกิจกรรมที่ดี และได้พบปะเพื่อนฝูง อีกทั้งอาชีพจักสานยังเป็นอาชีพที่ตนได้รับการถ่ายทอดมาจากรุ่นพ่อ-แม่อยู่แล้ว จึงคิดจะเอาอาชีพนี้มาเป็นรายได้ในเวลาว่าง นอกเหนือจากการทำเกษตร เพื่อเลี้ยงดูตนเองและแบ่งเบาภาระครอบครัว ถึงแม้จะเป็นเงินเพียง 1,000-2,000 บาท แต่ตนกลับรู้สึกภูมิใจ และมีความสุขมาก ทั้งยังถือว่าเป็นการออกกำลังกายร่วมด้วย

(พันเอกรณกร สุดด้วงแก้ว ตัวแทนนักเรียนโรงเรียนผู้สูงอายุฮอมสุข และประธานกองทุนพลเมืองจิตอาสา)
ด้าน พันเอกรณกร สุดด้วงแก้ว ตัวแทนนักเรียนโรงเรียนผู้สูงอายุฮอมสุข และประธานกองทุนพลเมืองจิตอาสา องค์การบริหารส่วนตำบลดอนแก้ว อ.แม่ริม ก็ได้กล่าวว่า เดิมตนเองเป็นอดีตข้าราชการหน่วยรบพิเศษของประเทศไทย แต่เกษียณมาตั้งแต่ปี 2556 โดยครั้งแรกที่มาเรียนหลักสูตรจิตอาสาก็เพื่อจะได้ดูแลตนเองและครอบครัวเท่านั้น แต่เมื่อได้ใช้เวลาในการดูแลผู้สูงอายุประกอบกับตนมีเวลาว่าง และสุดท้ายที่เป็นจุดเปลี่ยนความตั้งใจของตนเลยก็คือพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ในการช่วยเหลือสังคม ตนเลยยึดหลักตรงนี้ และทำงานเป็นจิตอาสาดูแลผู้สูงอายุมาตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน

ทั้งหมดนี้เป็นเพียง 2 พื้นที่ต้นแบบที่ได้แสดงพลังให้เห็นแล้วว่า ศักยภาพของชุมชนที่ทำงานเพื่อชุมชนอย่างแท้จริงนั้นเป็นอย่างไร และสามารถประสบความสำเร็จได้ ซึ่งหวังว่า ในอนาคตเราจะสามารถจัดสรรระบบเช่นนี้ให้ขยายออกไปทั่วประเทศ เพื่อความสุขของคนสูงวัยในสถานีบั้นปลายชีวิต และเพื่อการก้าวสู่สังคมแห่งสุขภาวะต่อไป โดยไม่ทิ้งใครไม่ไว้ข้างหลัง


กำลังโหลดความคิดเห็น