"อนุทิน" ถกปมถ่ายโอน รพ.สต.-สถานีอนามัยฯ ให้ อบจ. ชี้มีทั้งคนอยากไป ไม่อยากไป อยากได้ทรัพย์สิน ไม่อยากได้คน ต้องเซ็ตระบบมาตรฐานให้เปลี่ยนผ่านไร้รอยต่อ ลดผลกระทบประชาชน ยืนยันไม่มีลอยแพ ต้องยินดีทั้งผู้โอนและรับโอน มอบปลัด สธ.-รองปลัดเร่งทำความเข้าใจ
เมื่อวันที่ 30 มี.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะกรรมการระบบสุขภาพปฐมภูมิ ครั้งที่ 1/2565 ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการเตรียมความพร้อมเรื่องการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ซึ่งมีอีกหลายอย่างต้องดำเนินการ ทั้งเรื่องทรัพย์สิน เรื่องบุคลากรซึ่งก็มีอีกหลายเรื่อง เพราะมีทั้งผู้ที่อยากไปและไม่อยากไป รวมทั้งมีที่อยากได้ทรัพย์สิน ไม่อยากได้คน หรืออยากได้ทั้งสองอย่าง ยอมรับว่า ต้องมานั่งพิจารณาว่า จะทำอย่างไรให้มีการเปลี่ยนผ่านแบบไร้รอยต่อ
"เรื่องนี้เกิดก่อนผมมา แต่หากดำเนินการไปแล้วและเกิดปัญหา สธ.ก็ต้องรับผิดชอบอยู่ดี จึงจำเป็นต้องตั้งมาตรฐาน เซ็ตระบบขึ้นมาว่า ก่อนจะไปเข้าเกณฑ์อย่างไร เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดต่อประชาชนผู้รับบริการ เรากังวลผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนมากที่สุด เพราะถ้าเชื่อมต่อกันไม่ดี ประชาชนจะมีปัญหาได้” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ สธ.แก้ปัญหาและสร้างความเข้าใจเรื่องนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้มีทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจ แต่ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ จึงต้องเร่งสร้างความเข้าใจ แต่การจะทำความเข้าใจต้องไม่ใช่ไปบังคับ เพราะบางคนบอกว่า เกิดมาที่นี่ เติบโตมาที่นี่ หน้าที่การงานอยู่ใน สธ. มีความคุ้นเคย หากโอนเขาไปหน่วยงานอื่นที่เขาไม่มีความผูกพัน ไม่คุ้นเคย จะมีอะไรมายืนยันว่า อนาคตของเขาจะไม่กระทบ เรื่องนี้มีหลายขั้นตอน โดยปลัด สธ.และรองปลัด สธ.ที่ดูแลเรื่องนี้ จะมีการบริหารจัดการให้เรียบร้อย เราไม่ลอยแพแน่นอน
"คนที่จะไป ผู้โอนและผู้รับโอน ก็จะคล้ายๆ ต้องมีสัญญาซื้อขาย ผู้ซื้อยินดีซื้อ ผู้ขายยินดีขาย กรณีนี้ทั้งผู้โอน ผู้รับโอนต้องยินดีทั้งหมด และต้องมีการจัดเตรียมระบบให้พร้อม สิ่งสำคัญต้องยึดหลักการโอนย้ายต้องเกิดประโยชน์มากที่สุด” นายอนุทินกล่าว