"อนุทิน" ลั่นดูแลควบคุม ป้องกัน รักษา "โควิด" ได้ ต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เผยเปิดช่องทางเข้าออกประเทศมากขึ้น ลุยจัดงาน Health Expo 2022 เรียกความมั่นใจต่างชาติ มาดูแลสุขภาพที่ไทย พร้อมเปิดทางจับคู่ธุรกิจสุขภาพดันสู่เวทีโลก หวังเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวสุขภาพ
เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดงาน Thailand International Health Expo 2022 ว่า ประเทศไทยเป็นเมืองเป้าหมายด้านสุขภาพของโลก มีระบบการจัดการโรคติดต่อและวัคซีนที่ดี มีความพร้อมบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล เป็นที่ยอมรับของต่างชาติ โดยมี รพ.ในประเทศที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็น รพ.ที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2565 (The World's Best Hospitals 2022) รวมทั้งรัฐบาลยังมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และการเป็นศูนย์กลางการดูแลสุขภาพด้วยกัญชาทางการแพทย์ ดังนั้น สธ.และหน่วยงานพันธมิตรจึงร่วมกันจัดงาน Thailand International Health Expo 2022 “สร้างสุขภาพ เสริมเศรษฐกิจ เพื่อคุณภาพชีวิตประชาชน”
นายอนุทินกล่าวว่า เราทำทุกอย่างที่จะทำให้เกิดสิ่งที่เป็นความปลอดภัยต่อประชาชน สิ่งสำคัญที่สุดของรัฐบาลและ สธ.คือ ทำให้เกิดความมั่นใจว่าประชาชนและคนอาศัยในประเทศมีความปลอดภัยจากการคุกคามของโรคโควิดมากที่สุด เมื่อเราสามารถให้การดูแลเรื่องการป้องกัน การรักษา แก่ผู้ป่วยในประเทศนี้ได้แล้ว ก็ต้องคิดถึงวิธีต่อไป ให้ประเทศขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ ธุรกรรมต่างๆ กับนานาประเทศได้ สิ่งที่เราทำคือ เปิดช่องทางแทบทุกช่องทางที่จะทำให้มีการสัญจรไปมา เดินทางเข้าออกประเทศได้ด้วยความสะดวกมากยิ่งขึ้น และให้ความเชื่อมั่นว่าประเทศเรามีความพร้อม ทั้งความปลอดภัยในการเดินทางเข้ามาประเทศเรา หรือการรักษาพยาบาล เพื่อให้คนมั่นใจและเดินทางมาทำธุรกิจหรือท่องเที่ยว หรือวันนี้เราเปิด Health Expo เพื่อเปิดช่องทางให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาดูแลสุขภาพของเขาด้วย เป็น Health Tourism มาตรวจเช็กสุขภาพหมือนที่เคยทำมา ซึ่งสร้างรายได้อย่างมหาศาลให้แก่ประเทศของเรา
ทั้งนี้ ภายในงานนำเสนอนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านการแพทย์และสาธารณสุข สินค้า บริการ กิจกรรมให้ความรู้ด้านสุขภาพ พร้อมทั้งการประชุมวิชาการทางการแพทย์และสาธารณสุขระดับโลก เพื่อแสดงศักยภาพและขีดความสามารถของประเทศไทยในด้านอุตสาหกรรมและบริการการแพทย์ครบวงจร ผลักดันธุรกิจสุขภาพของไทยให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างมูลค่าจากการให้บริการ Magnet จับคู่เจรจาทางธุรกิจ และขับเคลื่อนไปสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวและการดูแลสุขภาพของโลกต่อไป
ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า งานครั้งนี้จัดขึ้นในลักษณะห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ในรูปแบบ Hybrid Expo เชื่อมโยงระบบสาธารณสุขและอุตสาหกรรมสุขภาพทั่วโลกไว้ในที่เดียวกัน โดยมีธีมหลัก “Empowering Smart Healthcare Innovations การขับเคลื่อนนวัตกรรมการดูแลสุขภาพอัจฉริยะ” ดำเนินการตามมาตรการปลอดภัย COVID Free Setting ภายในงานแบ่งเป็น 9 โซน อาทิ การประชุมสัมมนาด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์ การจัดแสดงการแพทย์เสมือนจริง หุ่นยนต์และเทคโนโลยีอุปกรณ์ทางการแพทย์ การดูแลสุขภาพทุกกลุ่มวัย รวมถึงอารยสถาปัตย์ (Friendly Design) จากหน่วยงานทั้งเครือข่ายรัฐและเอกชนชั้นนำ ในด้าน Service, Wellness, Product และ Academic เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีน การแพทย์แผนไทย และการแพทย์ผสมผสาน มาให้บริการแก่ประชาชนฟรี และบริการฉีดวัคซีนโควิด 19 เข็ม 3 (ไฟเซอร์) สำหรับเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไปฟรี โดยลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน QueQ ถึงวันที่ 19 มี.ค.2565 ทั้งนี้ นักธุรกิจและประชาชนผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้ตั้งแต่วันที่ 17 – 20 มี.ค. 2565
