สปสช.เผย สายด่วน 1330 โทร.ไม่ติดลดลงเหลือ 20% ตั้งเป้าให้เหลือไม่เกิน 5% พบสายโทร.เข้ากว่า 50% เป็นการสอบถามความคืบหน้า เหตุหน่วยบริการที่จับคู่ให้ดูแล HI ยังไม่ติดต่อกลับมา วอนงดโทร.ติดตามเพื่อลดจำนวนสาย ช่วยโทร.ติดง่ายขึ้น ลงทะเบียนเร็วขึ้น แจ้งไปยังหน่วยบริการแล้ว แต่ที่ช้าเพราะเกินศักยภาพรองรับ แนะไปรับบริการผู้ป่วยนอก แยกกักตัวที่บ้านแบบเจอ แจก จบ
เมื่อวันที่ 8 มี.ค. นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณีผู้ติดเชื้อโควิด-19 โทร.เข้าระบบการดูแลรักษาผ่านสายด่วน สปสช. 1330 ไม่ติด และหลายรายที่เข้าระบบดูแลรักษาที่บ้าน (HI) แล้ว แต่รอหน่วยบริการติดต่อกลับนาน ว่า ที่ผ่านมา สปสช.ได้ขยายศักยภาพของสายด่วน 1330 ให้รองรับการโทร. เจ้าหน้าที่สายด่วนและจิตอาสาจากภาคส่วนต่างๆ เข้ามาช่วยรับสายก็ทำงานอย่างหนัก แต่ยังไม่ทันกับปริมาณสายโทร.เข้าที่สูงขึ้นอย่างมาก จึงต้องขออภัยประชาชนที่ไม่ได้รับความสะดวก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การโทร.ไม่ติดหรือสายหลุดลดลง จาก 60% เหลือ 20% แต่ตั้งเป้าให้สายหลุดลดน้อยกว่า 5%
ทั้งนี้ ตามแนวทางใหม่ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เมื่อตรวจ ATK ขึ้น 2 ขีด หากไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อยไปรับการรักษาแบบผู้ป่วยนอกและแยกกักตัวที่บ้าน เจอ แจก จบ ได้ โดยไป รพ.ตามสิทธิหรือสถานพยาบาลภาครัฐใกล้บ้าน แต่แนะนำให้โทร.นัดหมายก่อน ส่วนกรณีต้องการลงทะเบียนรักษาที่บ้าน (HI) ลงทะเบียนได้ตามระบบที่มีของแต่ละจังหวัด หากไม่ทราบช่องทางก็ลงทะเบียนผ่านระบบของ สปสช.สายด่วน 1330 กด 14 หรือเว็บไซต์ https://crmsup.nhso.go.th/#TicketHI หรือ ไลน์ สปสช. @nhso ระหว่างรอสถานพยาบาลติดต่อกลับ รักษาตัวเองตามอาการได้ เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ไอ แก้เจ็บคอ ลดน้ำมูก ดื่มน้ำมากๆ เป็นต้น
“จากการวิเคราะห์ข้อมูลสายโทร.เข้า พบว่า กว่า 50% เป็นสายจากผู้ติดเชื้อที่ลงทะเบียนเข้า HI แล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับจากหน่วยบริการหรือรอตอบรับนานหลายวัน จึงโทร.เข้ามาติดตามความคืบหน้า ทำให้ผู้ติดเชื้อรายใหม่โทร.ไม่ติดหรือลงทะเบียนได้ช้า ซึ่งกรณียังไม่ได้รับบริการ สปสช.ได้รับเรื่องและส่งให้แต่ละหน่วยบริการทราบแล้ว จึงขอความร่วมมือผู้ติดเชื้อโควิดที่ลงทะเบียนแล้ว ลดความถี่หรืองดโทร.ติดตามจะช่วยลดจำนวนสายลงอย่างมาก ช่วยให้ผู้ติดเชื้อรายใหม่โทร.ติดหรือลงทะเบียนเข้า HI ได้เร็วมากขึ้น” นพ.จเด็จ กล่าว
นพ.จเด็จ กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อที่ลงทะเบียนแล้วไม่ว่าจะผ่านช่องทางใด ข้อมูลจะถูกเก็บในฐานข้อมูล ไม่ต้องกังวลว่าจะตกหล่นสูญหาย เพียงแต่ปัญหารอนานหรือไม่มีหน่วยบริการตอบกลับ อาจเกิดจากขณะนั้นจำนวนผู้ติดเชื้อในพื้นที่มีมากจนเกินศักยภาพหน่วยบริการที่จะรองรับได้หมด และต้องรอ discharge ผู้ป่วยเดิมออกไปก่อน จึงรับผู้ป่วยรายใหม่มาดูแลได้ ทำให้มีผู้ติดเชื้อหลายรายต้องรอนาน ซึ่ง สธ.ได้ขยายศักยภาพหน่วยบริการ จัดระบบบริการอื่นเป็นทางเลือก เช่น เจอ แจก จบ ให้ผู้ป่วยไปรับบริการแบบผู้ป่วยนอกใน 14 จังหวัดใกล้เคียง กทม. โดยไปใช้บริการได้ทุกสิทธิ ไม่ต้องลงทะเบียนหน่วยบริการประจำกับ รพ.นั้นๆ นอกจากนี้ วันที่ 8 มี.ค. ทีมงานและจิตอาสาของ สปสช.จะลงพื้นที่นำยาฟ้าทะลายโจรไปกระจายให้แก่ชุมชนต่างๆ ใน กทม.กว่า 900 ชุมชน เพื่อแจกให้กับผู้ป่วยโควิดที่มีอาการไม่มาก เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนแล้วหน่วยบริการยังไม่ติดต่อกลับไปเกิน 5 วัน หากมีอาการเล็กน้อยก็ประสานผู้นำชุมชนเพื่อรับยาฟ้าทะลายโจรได้
“เราเข้าใจว่า เมื่อลงทะเบียนไปแล้วไม่ได้รับการตอบรับจากหน่วยบริการ ทำให้มีความกังวลใจและพยายามสอบถามความคืบหน้าเป็นระยะ ต้องขออภัยที่ไม่ได้รับความสะดวก แต่ขณะนี้อยู่ในสถานการณ์ภาวะไม่ปกติและเกินศักยภาพที่ระบบสายด่วน 1330 จะรองรับการโทร.ได้หมด จึงต้องขอความร่วมมือจริงๆ ในการลดความถี่หรืองดเว้นการโทร.ติดตามความคืบหน้า หากยังไม่มีหน่วยบริการตอบรับเข้าระบบ HI การลด ซึ่งจะช่วยลดปริมาณสายเข้าและทำให้โทร.ติดง่ายขึ้น ผู้ป่วยรายใหม่เข้ามาลงทะเบียนได้เร็วขึ้น ภาระงานเจ้าหน้าที่ที่ต้องตอบคำถามก็จะนำเวลาไปใช้ประสานหาหน่วยบริการให้ได้มากขึ้น” นพ.จเด็จ กล่าว