12 จังหวัดยังติดโควิดเกิน 600 ราย ยอดติดเชื้อใหม่ยังทรงตัว 2.3 หมื่นราย พบปอดอักเสบยังเกินพันรายต่อเนื่อง ใส่เครื่องช่วยหายใจ 337 ราย วันนี้ดับสูงสุด 54 ราย พบ 1 ขวบดับด้วย เจอลักลอบจากเมียนมาติดเชื้อ 35 คน
เมื่อวันที่ 4 มี.ค ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด 19 ประจำวันว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่ถึงหลักหมื่นรายเป็นวันที่ 28 นับจากการระบาดระลอก 1 ม.ค. 2565 โดยรายงานติดเชื้อ 23,834 ราย สะสม 2,981,996 ราย หายป่วย 19,351 ราย สะสม 2,731,029 ราย เสียชีวิต 54 ราย สะสม 23,124 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 227,843 ราย อยู่ใน รพ. 80,539 ราย อยู่ รพ.สนาม HI CI 147,304 ราย มีอาการหนัก 1,115 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 337 ราย ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 54 ราย มาจาก 34 จังหวัด ได้แก่ กทม. และภูเก็ต จังหวัดละ 5 ราย , ลพบุรี 3 ราย , นครปฐม เลย ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ สกลนคร เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี กาญจนบุรี จังหวัดละ 2 ราย และ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร กาฬสินธุ์ นครราชสีมา มุกดาหาร หนองบัวลำภู กำแพงเพชร ตาก นครสวรรค์ สุโขทัย กรับี่ ชุมพร ตรัง พัทลุง ยะลา สงขลา ชลบุรี นครนายก สระบุรี และปราจีนบุรี จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 30 ราย หญิง 24 ราย อายุ 1- 91 ปี เฉลี่ย 74 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 95%
ส่วน 10 จังหวัดที่มีรายงานติดเชื้อรายใหม่สูงสุดคือ 1.กทม. 2,580 ราย 2.ชลบุรี 1,320 ราย 3.นครศรีธรรมราช 1,124 ราย 4.สมุทรปราการ 953 ราย 5.นครราชสีมา 814 ราย 6.ปทุมธานี 689 ราย 7.สมุทรสาคร 686 ราย 8.นครปฐม 684 ราย 9.ระยอง 649 ราย และ 10.ภูเก็ต 623 ราย
สำหรับจังหวัดติดเชื้อถึง 100 รายขึ้นไปยังมีอีก 48 จังหวัด คือ พระนครศรีอยุธยา 620 ราย , ราชบุรี 603 ราย , นนทบุรี 564 ราย , บุรีรัมย์ 520 ราย , ประจวบคีรีขันธ์ 460 ราย , ขอนแก่น 457 ราย , ฉะเชิงเทรา 438 ราย , สุพรรณบุรี 429 ราย , ปัตตานี 370 ราย , ร้อยเอ็ด 365 ราย , สงขลา 341 ราย , สระบุรี 335 ราย , สมุทรสงคราม 277 ราย , ยะลา 269 ราย , พัทลุง 254 ราย , กาญจนบุรี 252 ราย , อุบลราชธานี 248 ราย , เชียงใหม่ 241 ราย , สุรินทร์ 241 ราย , สุราษฎร์ธานี 240 ราย , ชัยภูมิ 239 ราย , หนองคาย 226 ราย , กาญจนบุรี 217 ราย , อ่างทอง 211 ราย , ปราจีนบุรี 200 ราย
สระแก้ว 199 ราย , เพชรบุรี 196 ราย , กำแพงเพชร 195 ราย , ตาก 194 ราย , ศรีสะเกษ 193 ราย , สกลนคร 192 ราย , นครสวรรค์ 189 ราย , พิษณุโลก 188 ราย , ลพบุรี 186 ราย , มหาสารคาม 181 ราย , จันทบุรี 175 ราย , อุดรธานี 172 ราย , ตรัง 169 ราย , ระนอง 166 ราย , กระบี่ 149 ราย , นราธิวาส 144 ราย , สตูล 143 ราย , ยโสธร 133 ราย , นครนายก 125 ราย , หนองบัวลำภู 121 ราย , นครพนม 111 ราย , เพชรบูรณ์ 109 ราย และชุมพร 106 ราย ส่วนวันนี้ไม่มีจังหวัดใดติดเชื้อหลักหน่วย
ส่วนการติดเชื้อมาจากเรือนจำพบ 85 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 146 ราย ใน 34 ประเทศ ซึ่งประเทศต้นทางที่มีการติดเชื้อมาก เช่น เมียนมา 38 ราย เป็นลักลอบเข้ามา 35 ราย , รัสเซีย 20 ราย , เยอรมนี 11 ราย , อังกฤษ 10 ราย , สิงคโปร์ 9 ราย , ฝรั่งเศส กัมพูชา ประเทศละ 5 ราย เป็นต้น ภาพรวมเข้าระบบ Test&Go 70 ราย แซนด์บ็อกซ์ 32 ราย ระบบกักตัว 8 ราย และลักลอบเข้ามา 36 ราย
สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1-3 มี.ค. 2565 จำนวน 24,967 ราย รายงานติดเชื้อ 340 ราย คิดเป็น 1.36% แบ่งเป็นระบบ Test&Go 20,983 ราย ติดเชื้อ 223 ราย คิดเป็น 1.06% แซนด์บ็อกซ์ 3,485 ราย ติดเชื้อ 112 ราย คิดเป็น 3.21% และกักตัว 499 ราย ติดเชื้อ 5 ราย คิดเป็น 1%
การฉีดวัคซีนโควิด 19 วันที่ 3 มี.ค. ฉีดได้ 208,670 โดส สะสมรวม 124,396,024 โดส เป็นเข็มแรก 53,780,157 ราย คิดเป็น 77.3% ของประชากร เข็มสอง 49,811,504 ราย คิดเป็น 71.6% ของประชากร และเข็มสาม 20,804,363 ราย คิดเป็น 29.9% ของประชากร