"อนุทิน" เผยแรงงานไทยลี้ภัยสงครามกลับจากยูเครนแล้ว 38 คน เข้ากักตัวที่สถาบันบำราศนราดูร ตรวจเจอโควิด 3 คน อาการสีเขียว นำเข้ารักษาแล้ว ช่วงบ่ายกลับมาอีก 58 คน รวม 96 คน คาดกลับมาครบใน 1-2 วัน ระบุให้กักตัวแบบ 7+3 ครบกำหนด จัดฉีดวัคซีนเข็ม 3 ก่อนให้กลับบ้านหรือภูมิลำเนาได้
เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ที่สถาบันบำราศนราดูร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาจากประเทศยูเครน ซึ่งมีสถานการณ์สู้รบกับรัสเซีย โดยเข้ารับการดูแลกักตัวที่ศูนย์ Quarantine Center สถาบันบำราศนราดูร
นายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ได้มาต้อนรับแรงงานไทยที่กลับมาจากยูเครน ตามนโยบายและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ให้ทำทุกวิถีทางเะอให้คนไทยในยูเครนกลับสู่มาตุภูมิโดยเร็วที่สุด ซึ่งทราบมาว่า เรามีแรงงานไทยทำงานในยูเครน 139 คน วันนี้เดินทางกลับมาแล้วชุดแรก 38 คน และช่วงบ่ายอีก 58 คน รวม 96 คน ส่วนที่เหลือจะทยอยเดินทางกลับม่ค่ดว่าภายใน 1-2 วันนี้
นายอนุทินกล่าวว่า แรงงานไทยที่กลับมา เราให้มาอยู่ที่ Quarantine Center สถาบันบำราศนราดูร เนื่องจากแรงงานเหล่านี้ไม่มีเวลาลงทะเบียน Thailand Pass หรือเข้าระบบ Test&Go จึงเปิดศูนย์แห่งนี้เพื่อทำการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ส่วนใหญ่ไม่พบเชื้อ โดยพบเชื้อเพียง 3 คน เป็นกลุ่มสีเขียว ไม่มีอาการ ซึ่ง สธ.ได้ให้การดูแลรักษาตามอาการของโรคเรียบร้อยที่สถาบันบำราศนราดูร ส่วนที่เหลือจะกักตัวเฝ้าระวังอาการตามแนวทาง 7+3 โดยจะมีการตรวจ ATK ในช่วงวันที่ 5 หากผลเป็นลบ เมื่อครบวันที่ 7 ก็สามารถเลือกอยู่เฝ้าสังเกตอาการต่อได้ หรือเดินทางกลับบ้านหรือภูมิลำเนา ส่วนระหว่างกักตัวหากมีอาการก็สามารถแจ้งได้ทันทีผ่านระบบหมอชนะ
"รัฐบาลไทยดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานยังมอบเงินจากกองทุนช่วยเหลือคนไปทำงานต่างประเทศ กรณีลี้ภัยสงคราม ให้ผู้เดินทางกลับมาด้วย จากการสอบถามทุกท่านดีใจที่กลับมาเมืองไทยได้ และพบว่าคนไทยส่วนใหญ่ในยูเครนรับวัคซีนสองเข็ม ซึ่งเราจะจัดวัคซีนเข็ม 3 ก่อนกลับบ้าน เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันว่าจะปลอดภัยจากโควิด" นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินกล่าวว่า ช่วงที่เดินทางกลับภูมิลำเนา จะมีการแจกชุดตรวจ ATK เพื่อใช้ตรวจหาเชื้อด้วย และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจะร่วมกับแรงงานจังหวัดในการติดตามดูแลช่วยเหลือในระยะต่อไป ส่วนการดูแลสุขภาพจิตนั้น แรงงานเหล่านี้ออกจากเมืองอันตรายมาอยู่บ้านเกิด เป็นใครก็ต้องดีใจ ซึ่งเท่าที่คุยขวัญกำลังใจดี ส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่เมืองหลวงหรือเมืองเคียฟ แต่อยู่ทางตอนใต้ ซึ่งสถานการณ์ยังไม่รุนแรง แต่ถ้าใครมีปัญหาก็ต้องสอบถามก่อนให้เดินทางกลับ แต่คิดว่าเราดูแลเขาอยู่ตรงนี้ขวัญกำลังใจก็กลับมาเยอะ