สำนักการแพทย์ กทม.จัดอบรม บพส.11 สร้างบุคลากรด้านบริหารการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อการให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้ (1 มี.ค. ) พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรบริหารการแพทย์และสาธารณสุข รุ่นที่ 11 (บพส.11) โดยมี นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ คณะผู้บริหารสำนักการแพทย์ ผู้เข้ารับการฝึกอบรม และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี ณ ห้องประชุมพิทยรักษ์ ชั้น 4 สำนักการแพทย์
กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการแพทย์ จัดการฝึกอบรมหลักสูตรบริหารการแพทย์และสาธารณสุข รุ่นที่ 11 (บพส.11) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ให้แก่บุคลากรสายงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข สังกัดสำนักการแพทย์ สำนักอนามัย และสังกัดมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ระดับชำนาญการ - ชำนาญการพิเศษ จำนวนทั้งสิ้น 30 คน เพื่อพัฒนาสมรรถนะบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุขให้มีภาวะผู้นำ วิสัยทัศน์ มุมมองเชิงยุทธศาสตร์ ทักษะแนวคิดวิเคราะห์ สามารถนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ นวัตกรรมที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาระบบการให้บริการและการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ทันต่อเหตุการณ์ในปัจจุบัน สอดคล้องเชื่อมโยงกับแผนปฏิบัติราชการ นโยบายของส่วนราชการ และแผนของกรุงเทพมหานคร รวมทั้งสร้างโอกาสในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ทางการบริหาร ระหว่างวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิทั้งจากภาครัฐและเอกชน บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขในสังกัดสำนักการแพทย์ สำนักอนามัย และมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช โดยกำหนดพิธีเปิดการฝึกอบรมปฐมนิเทศในวันนี้ (1 มี.ค. 65) และดำเนินการฝึกอบรมระหว่างวันที่ 1 มี.ค. - 27 พ.ค. 65 รวมจำนวน 57 วัน ประกอบด้วย ภาควิชาการ ภาคการสร้างเสริมภาวะผู้นำและการบริหารทางการแพทย์และสาธารณสุข ภาคเสริมสร้างประสบการณ์นักบริหาร ภาคการศึกษาดูงาน และภาคการจัดทำรายงานการศึกษา โดยมีผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักการแพทย์ ตลอดจนผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เป็นวิทยากรในการฝึกอบรม
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากร โดยเฉพาะหลักสูตรด้านการบริหาร ซึ่งผู้เข้ารับการฝึกอบรมจะได้รับการพัฒนาความรู้ ทักษะ ทั้งด้านการให้บริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อพร้อมที่จะให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงด้านการบริหาร เพื่อให้การบริหารทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดเกิดความคุ้มค่า สามารถปฏิบัติงานได้อย่างราบรื่น บรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนที่วางไว้ นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสในการสร้างสัมพันธภาพและเครือข่าย แลกเปลี่ยนแนวความคิดและประสบการณ์จากวิทยากรและผู้ร่วมรับการฝึกอบรม อันจะเป็นผลดีต่อการประสานงานระหว่างกันในภายภาคหน้า อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อเป็นผู้บริหารในการนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายได้อย่างรวดเร็วต่อไป