กรมอนามัย เผย 10 จังหวัดพบต่าฝุ่นเกินมาตรฐานสีส้ม "แม่ฮ่องสอน" เกินระดับสีแดง ที่ ต.จองคำ อ.เมือง พบภาคเหนือจุดความร้อนเพิ่มขึ้นมาก จากการเผาไร่ อากาศปิด ย้ำติดตามค่าอากาศ กลุ่มเสี่ยงป้องกันตนเอง
เมื่อวันที่ 1 มี.ค. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ระหว่างวันที่ 1- 4 มี.ค.นี้ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทั่วประเทศ โดยวันนี้พบเกินค่ามาตรฐานระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) ใน 10 จังหวัด ได้แก่ กทม. นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรปราการ พะเยา ตาก พิจิตร ราชบุรี ปราจีนบุรี และหนองคาย และระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) 1 จังหวัด คือ ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน มีค่าฝุ่น PM 2.5 เท่ากับ 98 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ซึ่งคาดการณ์ว่า บริเวณพื้นที่ภาคเหนือ จะมีสภาพอากาศปิด และพบจุดความร้อนจำนวนมาก เนื่องจากการเผาในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน รวมถึงการเผาในประเทศเพื่อนบ้านส่งผลให้ฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้นได้ และอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัวในพื้นที่ได้
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังอาการจากการรับสัมผัสฝุ่นละอองขนาดเล็กด้วยตนเอง ผ่าน 4health_ PM2.5 ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 2564 ถึงปัจจุบัน พบว่าประชาชนมีอาการที่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสฝุ่นละอองถึงร้อยละ 62.65 ส่วนใหญ่จะเป็นอาการเล็กน้อย ส่วนกลุ่มที่มีโรคประจำตัวจะมีอาการรุนแรงมากขึ้น เช่น หายใจลำบากเหนื่อยง่าย และหายใจมีเสียงหวีด เป็นต้น ดังนั้น ประชาชนในพื้นที่ 10 จังหวัด ควรติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน ดูค่า PM2.5 หรือค่า AQI ผ่านแอปพลิเคชัน “Air4Thai” โดยค่า PM2.5 อยู่ในช่วง 51–90 มคก./ลบ.ม. เท่ากับค่า AQI ที่ 101–200 ถือว่าอยู่ในระดับเกินมาตรฐานสีส้ม แต่หากพบค่า PM2.5 ที่สูงกว่า 91 มคก./ลบ.ม.ขึ้นไป เทียบเท่า AQI ที่สูงกว่า 201 ขึ้นไป อยู่ในระดับสีแดง ควรปฏิบัติตนตามคำแนะนำ คอยสังเกตอาการตนเอง และคนใกล้ชิด
ทั้งนี้ หากพบอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจไม่ออก หายใจมีเสียงวีด แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก ใจสั่น คลื่นไส้ เมื่อยล้าผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์ ประเมินอาการจากการรับสัมผัสฝุ่นละออง พร้อมรับคำแนะนำเบื้องต้น ได้ที่ https://4health.anamai.moph.go.th/index หรือ LINE Official “4Health_PM2.5” สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวควรเตรียมยา อุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ นอกจากนี้ ขอความร่วมมือประชาชนลดการเผาในที่โล่งทุกชนิด เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่นละออง
กลุ่มเสี่ยงป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากทุกครั้ง เมื่อออกนอกบ้าน สำหรับการเลือกและใช้หน้ากากที่ถูกต้องขอให้ใช้หลัก 3 - 3 - 1 โดย 3 ตัวแรกคือ การเลือก ซึ่งมีวิธีการเลือก ดังนี้ 1) เลือกหน้ากากที่ได้มาตรฐาน สะอาด ไม่มีกลิ่นผิดปกติหรือฉีกขาด 2) เลือกหน้ากากให้เหมาะสมกับลักษณะงานหรือกิจกรรมของผู้สวมใส่ และ 3) เลือกขนาดให้เหมาะสมกับใบหน้า สำหรับ 3 ตัวที่สองคือการใช้ ได้แก่ 1) ใช้สวมให้ถูกต้อง โดยครอบจมูกและปาก โดยไม่สวมไว้ใต้คาง 2) ไม่สวมหน้ากาก ขณะออกกำลังกาย เนื่องจากการสวมทำให้หายใจลำบาก และทำให้เหนื่อยง่ายกว่าปกติ 3) ไม่ใช้หน้ากากร่วมกับผู้อื่น และ 1 ตัวสุดท้าย คือ การทิ้ง ต้องทิ้งลงถังขยะและล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง