เปิดฉากทัศน์ "โควิด" หากผ่อนคลายมาตรการ ไม่ป้องกันตนเอง หลังสงกรานต์อาจติดเชื้อสูงสุดวันละ 1 แสนราย ปอดอักเสบเกือบเท่าช่วงเดลตา 6 พันราย ดับสูง 250 ราย หากยังทำตัวเหมือนปัจจุบันอาจติดเชื้อสูงถึง 5 หมื่นราย แต่หากร่วมกันเข้มมาตรการเตือนภัยระดับ 4 จะเหลือ 2.7 หมื่นราย ปอดอักเสบพันกว่าราย
เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขได้นำเสนอฉากทัศน์คาดการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอนในประเทศไทย ตั้งแต่เดือน มี.ค. 2565 เป็นต้นไป โดยพบว่า กรณีการติดเชื้อรายใหม่ ฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุด หากไม่มีมาตรการควบคุม ผ่อนคลายมาตรการควบคุมดรค ลดการแยกกัก-กักตัว ประชาชนส่วนใหญ่ย่อหย่อนมาตรการป้องกันตนเอง อาจพบผู้ติดเชื้อสูงสุดในวันที่ 19 เม.ย. ถึง 100,000 ราย แต่หากมีมาตรการควบคุม ประชาชนร่วมมือป้องกันโรคในระดับปัจจุบัน และคาดการณ์การแพร่โรคต่อเนื่องไปทุกจังหวัด จนถถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ อาจพบผู้ติดเชื้อสูงสุดในวันที่ 19 เม.ย. ประมาณ 50,000 ราย แต่หากมีความเข้มข้นของมาตรการควบคุมโรค ปฏิบัติตามการแจ้งเตือนภัยระดับ 4 งดการรวมกลุ่ม งดเข้าสถานที่เสี่ยง ชะลอการเดินทาง เร่งการฉีดวัคซีนมากขึ้น เกิน 4 แสนโดสต่อวัน และปฏิบัติตามมาตรการ VUCA เคร่งครัด จะพบการติดเชื้อสูงสุดในวันที่ 16 มี.ค. ประมาณ 27,000 ราย และจะเริ่มทรงตัวและลดลง
ส่วนกรณีผู้ป่วยปอดอักเสบ หากผ่อนคลายมาตรการ จะพบผู้ป่วยปอดอักเสบสูงสุดช่วงวันที่ 3-5 พ.ค. ประมาณเกือบ 6 พันราย หากยังคงมาตรการต่างๆ เหมือนในปัจจุบัน จะพบปอดอักเสบสูงสุดช่วง 3-5 พ.ค. ประมาณ 3,200 ราย และกรณีเข้มมาตรการสูงสุดจะพบประมาณ 1,000 กว่าราย
กรณีใส่ท่อช่วยหายใจ หากไม่ควบคุม ผ่อนคลายมาตรการ จะพบสูงสุดช่วงวันที่ 5-6 พ.ค.ประมาณ 1,700 ราย หากควบคุมมาตรการเท่าปัจุบันจะพบสูงสุดวันที่ 5-6 พ.ค. ราว 900 ราย และกรณีเข้มมาตรการสูงสุดจะพบสูงสุดวันที่ 9 เม.ย.ประมาณ 400 กว่าราย
สำหรับการเสียชีวิตหากไม่ควบคุมผ่อนคลายมาตรการ จะพบสูงสุดวันที่ 3-5 พ.ค. ประมาณ 250 กว่าราย ควบคุมเท่าระดับปัจจุบัน จะพบสูงสุดวันที่ 3-5 พ.ค. 140 ราย และกรณีเข้มมาตรการสุดๆ จะพบสูงสุดวันที่ 9 เม.ย.ประมาณ 70 ราย