สสจ.สงขลา เผยยาฟาวิพิราเวียร์ในพื้นที่ไม่ขาดแคลน ได้รับเพิ่มอีกกว่าแสนเม็ดจันทร์นี้ รับสถานการณ์ยังขาขึ้น ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น-แรงงาน กว่า 90% ไม่อาการ จ่ายยาฟ้าทะลายโจร ลุยฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เล็งกำหนดรับ 3 เข็มถือว่าครบโดส
เมื่อวันที่ 26 ก.พ. นพ.สงกรานต์ ไหมซุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) สงขลา กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด 19 จ.สงขลา ว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงขาขึ้น ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น วัยแรงงาน ในพื้นที่ อ.เมือง กับ อ.หาดใหญ่ กว่า 90% เป็นกลุ่มที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย การรักษาเป็นไปตามเกณฑ์ของกรมการแพทย์ โดยให้ยาฟ้าทะลายโจรและยารักษาตามอาการ เช่น ยาแก้ไอ เจ็บคอ และดูแลตัวเองที่บ้าน (HI) หรือชุมชน (CI) ส่วนผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง 608 ก็ให้รักษาตัวใน รพ. และให้ยาฟาวิพิราเวียร์ คนที่อาการดีขึ้นประมาณ 5 วัน ก็จะได้รับการประเมิน และให้รักษาตัวต่อที่ HI/CI ซึ่งขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมายให้มีการตั้ง CI ชุมชนละ 1 แห่ง ก็จะทำให้หมุนหรือบริหารจัดการเตียงในพื้นที่ได้
“สต๊อกยาฟาวพิราเวียร์ ปัจจุบันยังมีเพียงพอ ไม่ได้ขาดแคลนเพราะไม่ได้จ่ายยาให้กับผู้ติดเชื้อทุกคน อาจจะมีตึงๆ บ้าง ขณะนี้ได้ทำเรื่องรับการจัดสรรยาฟาวิพิราเวียร์เพิ่มเติมจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) หลักแสนเม็ด ซึ่งน่าจะส่งมาในวันที่ 28 ก.พ.นี้” นพ.สงกรานต์ กล่าวว่า
นพ.สงกรานต์กล่าวต่อว่า การประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ตอนนี้ยังเป็นขาขึ้น คาดว่าจะใช้เวลาในการควบคุมสถานการณ์ มี.ค.นี้ แต่เชื้อโอมิครอนส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรืออาการไม่มาก ที่ยังกังวลและต้องเร่งควบคุมคือช่วงสงกรานต์ เพราะจะเป็นเทศกาลที่คนไปมาหาสู่กัน สิ่งที่เราต้องเร่งทำคือฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น อาจจะพิจารณาว่า ฉีด 3 เข็มถือว่าครบโดส ซึ่งขณะนี้ฉีด 3 เข็มแล้วเพียง 40% ถือว่ายังน้อยอยู่ ตั้งเป้าให้ได้ 80% ก่อนสงกรานต์ มาตรการคือต้องรณรงค์ให้ประชาชนมาฉีดวัคซีนให้มากขึ้น โดยค้นหากลุ่ม 608 ตามทะเบียนบ้านและเข้าไปฉีดเชิงรุก หากใกล้เวลาจะมีการตั้งจุดฉีดวัคซีนที่สถานีขนส่ง สนามบิน ส่วนกรณีที่จะมีการเปิดด่านไทย – มาเลเซีย มี.ค.นี้อยู่ระหว่างหารือกับมาเลเซียว่าคนที่จะเดินทางข้ามประเทศ ต้องได้รับวัคซีน 3 เข็ม