คณบดีศิริราช เผย“สงกรานต์” ปีนี้อาจได้เฮ ขอทุกคนมารับวัคซีนเข็ม 3 ให้มากที่สุด ช่วยกันดึงตัวเลขติดเชื้อไม่ให้เกิน 2 หมื่นรายนิดๆ จะพิจารณาให้ครื้นเครงได้แค่ไหน พร้อมหารือลดตรวจ RT-PCR กลุ่ม Test&Go เหลือวันแรกครั้งเดียว
เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ประเทศไทย ว่า ขณะนี้การติดเชื้อเป็นสายพันธุ์โอมิครอน เราดูข้อมูลและคาดการณ์มาตลอดว่า ตัวเลขติดเชื้อรายใหม่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จาก 1 หมื่นเป็น 1.5 หมื่นและ 2 หมื่นรายต่อวันได้ อัตราเสียชีวิตทรงตัวและมีแนวโน้มลดลง แต่ที่ต้องติดตามคือ ผู้ป่วยหนักและใส่ท่อช่วยหายใจ ซึ่ง 2 สัปดาห์ก่อนมีผู้ป่วยปอดอักเสบ 500 ราย ตอนนี้เพิ่มเป็น 749 ราย ใส่ท่อช่วยหายจาก 100 ราย เพิ่มเป็น 184 ราย แต่ระบบสุขภาพยังรับไหว เพราะรองรับผู้ป่วยหนักได้กว่า 3 หมื่นเตียง เครื่องช่วยหายใจอีก 2 พันเตียง ตอนนี้เราใช้ไปเพียง 10%
“แต่อย่าลืมว่าเรายังมีผู้ป่วยโรคทั่วไปที่จำเป็นต้องใช้เตียงเช่นกัน หากตัวเลขป่วยหนัก ใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มขึ้นต่อเนื่องก็จะต้องระวังมากขึ้น เพราะจะนำไปสู่ตัวเลขเสียชีวิตได้ ซึ่งที่พบมากคือ ผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือรับไม่ครบ แต่ขณะนี้เริ่มพบผู้เสียชีวิตที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม แต่นานมากกว่า 4 เดือน ทุกคนจึงต้องมารับวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608” ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว
ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า ระหว่างนี้จนถึง เม.ย. หากเราเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นต่อเนื่อง ก็เชื่อได้ว่า เม.ย.ปีนี้น่าจะต่างจากปีที่แล้ว เพราะปีที่แล้วเรายังฉีดวัคซีนน้อยมาก แต่ปีนี้เราได้รับวัคซีนเข็มแรกเกิน 70% ขณะที่เข็มกระตุ้นก็เกิน 25% สงกรานต์ปีนี้ก็จะต่างออกไป แต่ยังไม่ถึงขั้นที่จะออกไปเล่นสาดน้ำได้ เพียงแต่สามารถเดินทางกลับภูมิลำเนา รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ตามประเพณีได้อย่างปลอดภัย ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำตั้งแต่วันนี้ คือ เร่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้มากขึ้นที่สุด อย่างบางประเทศที่ผ่อนคลายมากๆ มีอัตราฉีดเข็ม 3 เกิน 50% แล้ว
“ช่วงปีใหม่ ตรุษจีนที่ผ่านมาถือเป็นการทดสอบระบบที่วางไว้ว่า หากติดเชื้อโควิดก็ให้รักษาที่บ้าน (HI) ไม่ต้องไป รพ. แต่ต้องเข้มงวดไม่ออกจากบ้านจริงๆ หากทำได้ระบบสุขภาพก็จะไม่ล้น เชื่อว่า เม.ย. ประเทศไทยจะกล้าพอที่จะเปิดมากกว่านี้ ซึ่งสงกรานต์นี้จะเป็นอีกการทดสอบ ฉะนั้นเตรียมตัวให้ดี ฉีดวัคซีนให้เยอะ และช่วง มี.ค.ก็สำคัญ หากดึงตัวเลขติดเชื้อต่อวัน สูงสุดวันละ 2 หมื่นรายนิดๆ แล้วไม่ขึ้นต่อ และฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ช่วงใกล้สงกรานต์ก็ต้องคุยกันว่าจะครื้นเครงได้ขนาดไหน” ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว
ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้แบ่งประเทศออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ประกาศชนะโอมิครอน เช่น ยุโรปตอนเหนือ แถบสแกนดิเนเวีย ที่ยังติดเชื้อเยอะแต่ก็ฉีดวัคซีนเยอะ ด้วยเศรษฐกิจที่จำเป็นต้องตัดสินใจเปิดประเทศ ซึ่งก็มั่นใจได้มากขึ้นว่า โอกาสกลายพันธุ์แล้วรุนแรงขึ้นมีน้อยมาก และกลุ่มประเทศกล้าๆ กลัวๆ เช่น ไทย ที่เริ่มผ่อนแต่ก็ยังห่วงๆ ไม่กล้าผ่อนเต็มที่ ในการเปิดประเทศของไทยจะเห็นว่าขณะนี้คนไทยก็กล้าไปต่างประเทศมากขึ้น ส่วนมาตรการที่จะมีการพิจารณาใน ศบค.ชุดใหญ่ คือการปรับแนวทาง Test&Go ที่ตรวจ RT-PCR 2 ครั้งคือวันที่ 1 และวันที่ 5 ของการเดินทางเข้าประเทศ ก็จะพิจารณาว่าอาจให้ลดเหลือ 1 ครั้งคือวันแรก
“ปกติผมจะออกมาเตือน คอยระวัง เพราะไม่มองโลกสวย แต่สถานการณ์ตอนนี้ผมเชื่อว่า จะไปปลายทางของการแพร่ระบาดจริงๆ” ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว