xs
xsm
sm
md
lg

รพ.บางละมุงสั่งพักงาน "ผู้ดูแลคนไข้" ขโมยบัตร ATM ผู้ป่วยกดเงิน ตั้งสอบวินัยอาจถึงขั้นไล่ออก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รพ.บางละมุง ตั้งสอบวินัยร้ายแรง "ผู้ดูแลคนไข้" หลังสารภาพสิ้น ขโมยบัตร ATM ผู้ป่วยโควิดไปกดเงิน 4,500 บาท ชี้เป็นความผิดอาญา สั่งพักงานแล้ว คาดรู้ผลสอบเร็วๆ นี้ มีโทษถึงขั้นปลดออกหรือไล่ออก ย้ำไม่ใช่พยาบาลตามที่เข้าใจ

จากกรณีลูกสาวแจ้งความตำรวจว่า หลังจากตรวจสอบทรัพย์ของคุณพ่อที่เข้ารับการรักษาโควิดในรพ.บางละมุง จ.ชลบุรี และเสียชีวิตลง พบว่าบัตร ATM หายไปจากกระเป๋าสตางค์ และ SMS โทรศัพท์ระบุมีการถอนเงินสดออกไป 4,500 บาท ซึ่งจากการสอบสวนพบว่า พยาบาลอัตราจ้างของ รพ.เป็นผู้นำไปกดเงินนั้น

เมื่อวันที่ 11 ก.พ. นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เขตสุขภาพที่ 6 กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ผู้ป่วยรายดังกล่าวเป็นชายไทยอายุ 62 ปี ป่วยโรคไตเรื้อรัง เข้ารับการรักษาที่ รพ.บางละมุง เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2565 ช่วงแรกรู้สึกตัวดี มีอาการเหนื่อยเล็กน้อย ต่อมาวันที่ 28 ม.ค. 2565 มีอาการเหนื่อยมากขึ้น จึงย้ายมาที่หอแยกโรค (Isolated ward) ได้รับการฟอกไต 4 ครั้ง แต่อาการทรุดลงและเสียชีวิตในวันที่ 8 ก.พ. 2565 เวลา 11.50 น. รพ.ได้แจ้งให้ญาติมารับศพและทรัพย์สินที่ติดตัวระหว่างป่วยคืน ซึ่งในเวลาต่อมา บุตรสาวของผู้เสียชีวิตได้โทรศัพท์มาแจ้งว่า บัตร ATM และเงินสดในกระเป๋าหายไป โดยมี SMS ของธนาคารแจ้งมาที่โทรศัพท์ผู้เสียชีวิตว่ามีการกดเงินสดโดยใช้บัตร ATM เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2565 เป็นเงิน 4,500 บาท ทั้งนี้ รพ.ได้รับเรื่องและสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ส่วนญาติได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจเพื่อเดินเรื่องตรวจสอบกล้องวงจรปิดของทางธนาคาร


นพ.ณรงค์ กล่าวต่อว่า หลังทราบเรื่องได้กำชับให้ ผอ.รพ.เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง จากบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และตรวจสอบกล้องวงจรปิดของ รพ. ล่าสุดได้รับรายงานว่า พบผู้กระทำความผิดแล้ว เป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พกส.) ของ รพ. ตำแหน่งผู้ช่วยเหลือคนไข้ ได้รับสารภาพว่า เป็นคนนำบัตร ATM ของผู้ป่วยซึ่งขณะนั้นไม่รู้สึกตัวไปกดเงินสดเป็นจำนวน 4,500 บาทจริง รพ.บางละมุงจึงดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาด ส่วนในทางคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป พร้อมกันนี้ ได้นำกรณีที่เกิดขึ้นมาเป็นบทเรียน ชี้แจงและกำชับบุคลากรทุกหน่วย ให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต รักษาภาพลักษณ์ที่ดีของวิชาชีพและขององค์กร และปรับปรุงระบบดูแลความปลอดภัยในทรัพย์สินของผู้ป่วยและญาติให้รัดกุมมากขึ้น

ด้าน นพ.วสันต์ แก้ววี ผอ.รพ.บางละมุง กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ผู้ที่นำบัตรเอทีเอ็มของผู้ป่วยไปคือ ผู้ดูแลคนไข้ ไม่ใช่พยาบาลตามข่าวแต่อย่างใด ซึ่งทางญาติอาจจะไม่เข้าใจในเรื่องของตำแหน่งในโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม หลังตรวจสอบพบเราก็นำเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไปส่งที่สถานีตำรวจ โดยให้หัวหน้างานพูดคุยกับเจ้าทุกข์และดำเนินการคืนเงินตั้งแต่วันแรก สำหรับบทลงโทษในเรื่องดังกล่าว ขณะนี้ได้พักงานเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวแล้ว และเนื่องจากเป็นความผิดทางอาญา จึงได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง คาดว่าจะทราบผลเร็วๆ นี้ โดยความผิดวินัยร้ายแรงมีโทษถึงขั้นปลดออกหรือไล่ออก นอกจากนี้ ได้นำเรื่องดังกล่าวมาเป็นบทเรียนในการปรับระบบการดูแลทรัพย์สินของคนไข้ ซึ่งตามปกติเราจะแจ้งให้ผู้ป่วยไม่ควรพกของมีค่ามาและต้องดูแลทรัพย์สินของตัวเอง ซึ่งผู้ป่วยรายนี้มาด้วยอาการโควิด ช่วงแรกรู้สึกตัวดี และอยู่ในห้องแยกไม่มีใครเข้าไป เราอทจมองว่าไม่มีคนนอกเข้าไปก็อาจปลอดภัย แต่ไม่ได้ประเมินพวกเรากันเอง

"ยอมรับว่ากรณีนี้กระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนและคนไข่ ซึ่งเราประกาศเจตนารมณ์ของโรงพยาบาลแล้วว่า ให้เจ้าหน้าที่ดูแลคนไข้ด้วยเจตนาสุจริต เป็นบทเรียนที่ต้องเพิ่มกระบวนการตรวจสอบทรัพย์สินให้ถูกต้อง คืนญาติให้เร็วที่สุด และมีการดูแลที่ดี ซึ่งปกติจะให้เจ้าหน้าที่ดูแลทรัพย์สินมากกว่า 1 คน และช่วยกันเช็กลิสต์ โดยมีหัวหน้ารับทราบ" นพ.วสันต์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น