xs
xsm
sm
md
lg

นิวซีแลนด์ประกาศเปิดประเทศรับนักเรียนต่างชาติ 5,000 คนเม.ย.นี้ พร้อมเปิดรับวีซ่าใหม่เต็มรูปแบบ ต.ค.นี้ สำหรับนักเรียนใหม่ปี 2566

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายงานข่าวจากหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) แจ้งว่า รัฐบาลนิวซีแลนด์ได้ประกาศเตรียมเปิดพรมแดนต้อนรับนักเรียนต่างชาติกลับเข้าประเทศอีกครั้ง ซึ่งเป็นผลดีกับการศึกษานานาชาติ ประกาศดังกล่าว ระบุ 5 ขั้นตอนของการเปิดพรมแดนประเทศนิวซีแลนด์อีกครั้ง

1. ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป โดยเริ่มจากเปิดรับชาวนิวซีแลนด์ที่จะเดินทางกลับจากออสเตรเลียและจากส่วนอื่นๆ ของโลก

2. รัฐบาลนิวซีแลนด์ยังได้ประกาศอนุญาตให้นักเรียนต่างชาติกลุ่มที่ 4 จำนวนมากถึง 5,000 คน สามารถเดินทางเข้านิวซีแลนด์ได้ตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2565 เพื่อกลับเข้าไปศึกษาต่อในภาคการศึกษาที่ 2 โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลได้อนุญาตให้นักเรียนกลุ่มนี้ได้ทยอยเข้าประเทศตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 และพ.ศ. 2564

3. การดำเนินการเรื่องวีซ่าจะเริ่มต้นในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป ทำให้นักเรียนต่างชาติสามารถลงทะเบียนเรียนในประเทศนิวซีแลนด์ได้ในปี พ.ศ. 2566

4. นักเรียนจากประเทศที่มีโปรแกรมยกเว้นการขอวีซ่า เช่น ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้จะสามารถเดินทางเข้าประเทศนิวซีแลนด์ได้อีกครั้ง ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป โดยสามารถเดินทางเข้ามาอยู่ได้ในระยะสั้น นานสูงสุด 3 เดือน

5. ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2565 นักเรียนที่เดินทางเข้ามายังประเทศนิวซีแลนด์ในกลุ่มนักเรียนที่ได้รับสิทธิ์ได้รับข้อยกเว้นด้านพรมแดนให้กักตัวเองที่บ้านได้ โดยไม่ต้องกักตัวเพื่อสังเกตอาการโควิด-19 ในสถานกักกันที่ภาครัฐจัดเตรียมไว้ให้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสุขภาพและพรมแดนที่จำเป็นทั้งหมด

อย่างไรก็ตามนักเรียนที่มีคำถามเกี่ยวกับข้อยกเว้นของกลุ่มนักเรียนที่ได้รับการยกเว้นด้านพรมแดนให้เข้าประเทศได้ก่อนนักเรียนปกติกลุ่มอื่น ๆ ควรติดต่อสอบถามรายละเอียดจากหน่วยงานที่เป็นตัวแทนหน่วยงานบริการการศึกษา หรือจากสถาบันการศึกษาโดยตรงเป็นลำดับแรก อีกทั้ง นักเรียนยังสามารถเยี่ยมชม NauMai NZ (https://naumainz.studyinnewzealand.govt.nz/) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับนักเรียนต่างชาติในนิวซีแลนด์หรือผู้ที่เตรียมเดินทางมายังประเทศนิวซีแลนด์ หรือเว็บไซต์ของ ENZ ได้ที่ https://www.enz.govt.nz/


นายกร้านท์ แม็คเฟอร์สัน (Mr.Grant McPherson) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Education New Zealand กล่าวว่า การประกาศเปิดพรมแดนครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญสู่การสร้างการศึกษานานาชาติให้เข้มแข็งและยั่งยืนขึ้นใหม่ ขั้นตอนการเปิดพรมแดนครั้งนี้ ทำให้ภาคการศึกษานานาชาติสามารถเปิดดำเนินการได้ตามปกติอีกครั้งย่างเป็นขั้นเป็นตอนโดยเริ่มต้นจากนักเรียนกลุ่มแรกที่กำลังเดินทางเข้าประเทศตามสิทธิ์ได้รับข้อยกเว้นด้านพรมแดน และนักเรียนกลุ่มใหม่ที่เป็นกล่มใหญ่กว่าเดิมที่จะเดินทางเข้ามาศึกษาต่อในภาคเรียนที่ 2 ของปีนี้ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มนักเรียนใหม่ที่จะเดินทางเข้าประเทศจะถูกกำหนดโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและรัฐมนตรีว่าการการตรวจคนเข้าเมือง และจะได้รับคำแนะนำในเวลาที่เหมาะสม

“รัฐบาลได้แสดงความตั้งใจและความยึดมั่นให้กับนักเรียนต่างชาติและสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ในการเริ่มต้นเข้าเรียนในประเทศได้อย่างเต็มรูปแบบในปี พ.ศ. 2566 โดยจะเริ่มดำเนินการพิจารณาด้านวีซ่าตามปกติในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2565 นั่นหมายความว่า นักเรียนต่างชาติสามารถวางแผนเพื่อเรียนต่อที่ประเทศนิวซีแลนด์ในหลักสูตรที่เริ่มต้นในปี พ.ศ. 2566”

“ขณะนี้สถาบันการศึกษาสามารถวางแผนการดำเนินงานในปีหน้าได้อย่างมั่นใจมากขึ้น แม้ในช่วงที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่แสนท้าทายสำหรับสถาบันการศึกษาในประเทศนิวซีแลนด์ นักเรียนต่างชาติ และผู้ที่สนับสนุนพวกเขา แต่ภาคการศึกษานานาชาติของเราได้แสดงให้เห็นว่า ทุกภาคส่วนมีความอดทนอย่างมากในระหว่างที่พรมแดนยังมีการบริหารจัดการเพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 การประกาศเปิดพรมแดนดังกล่าวของรัฐบาล ถือเป็นโอกาสในการสร้างและปรับเปลี่ยนทุกภาคส่วนใหม่ เพื่อตอบสนองความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า” นายแมคเฟอร์สัน กล่าวและเพิ่มเติมว่า

“นวัตกรรมและการปรับรูปแบบการเรียนรู้ไปทางออนไลน์และการเปิดหลักสูตรการเรียนการสอนในต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงหลักสูตรเตรียมความพร้อมสำหรับการเรียนต่อในระดับปริญญาต่าง ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จะยังคงเป็นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมการศึกษาเพื่อการก้าวต่อไปข้างหน้าด้วย การประกาศของรัฐบาล ยังเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับนักเรียนนิวซีแลนด์ได้กลับไปศึกษาต่อต่างประเทศในอนาคตอีกด้วย”

นางสาวช่อทิพย์ ประมูลผล ผู้อำนวยการ ประจำประเทศไทย Education New Zealand สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติว่ามีระบบการศึกษาที่มีคุณภาพสูงติดอันดับต้นๆของโลกและได้รับการยอมรับด้านระบบการศึกษาที่เหมาะแก่การเรียนรู้สู่อนาคต (future-focused education) โดยได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 ในการเตรียมความพร้อมนักเรียนสู่อนาคต จากประเทศที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก จากการจัดอันดับของ Worldwide Educating for the Future Index 2019 โดย The Economist Intelligence Unit ทำให้นิวซีแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายปลายทางด้านการศึกษานานาชาติชั้นนำของโลกโดยในแต่ละปีมีนักเรียนนานาชาติกว่า 125,000 คน จากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก รวมถึงนักเรียนไทย ในปี 2019 มีนักเรียนไทยศึกษาอยู่ในนิวซีแลนด์กว่า 3,000 คน

“เป็นที่ทราบกันดีว่านิวซีแลนด์มีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เข้มงวดมาก ฉะนั้นการประกาศเปิดพรมแดนรับนักศึกษาต่างชาติของนิวซีแลนด์ครั้งนี้ ถือเป็นข่าวดีของนักเรียนต่างชาติ รวมถึงนักเรียนไทยที่รอคอยจะกลับไปศึกษาต่อ รวมถึงผู้ที่ต้องการสมัครเรียนใหม่สำหรับปีการศึกษา 2566 ทางรัฐบาลนิวซีแลนด์ก็จะเปิดรับพิจารณาวีซ่านักเรียนใหม่แล้วในเดือนตุลาคม 2565 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19” นางสาวช่อทิพย์ กล่าวสรุป


กำลังโหลดความคิดเห็น