คิดเล็กไม่คิดใหญ่

เรามักได้ยินเสมอมาว่า ถ้าต้องการทำธุรกิจให้ได้ดี ต้องมีวิสัยทัศน์

และให้เริ่มตั้งแต่ทำแผนการทางธุรกิจ (Business Plan) กำหนด Mission Statement วางแผนโดยการกำหนดราคาสินค้า สถานที่วางจำหน่าย กลุ่มลูกค้า และต่าง ๆ นานา

หลังจากนั้นเมิ่อบริษัทมีผลประกอบการที่ดี ก็ควรมีแผนการขยายธุรกิจต่อไปเรื่อย ๆ นั่นคือสิ่งที่เราเข้าใจว่า มันคือการเติบโตทางธุรกิจ

หลายคนวัดการเติบโตของบริษัทที่ขนาด หรือการเป็นที่รู้จัก โดยลืมนึกถึงผลกำไร ซึ่งเป้าหมายสำคัญของการทำธุรกิจ

การวางแผนหลายครั้ง ไม่ได้ต่างกับการคาดเดาไว้ล่วงหน้า

มีปัจจัยหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้องในการทำมาหากิน (ทำธุรกิจ ) การปรับตัวเป็นเรื่องที่ต้องมีในทุกองค์กร

แต่หากแผนการที่วางไว้ใหญ่เกินไป ก็ทำให้หลายครั้งการปรับตัวทำได้ยากขึ้น

ชีวิตคนเรามีแต่ความไม่แน่นอนสูง การทำธุรกิจก็คือการใช้ชีวิตอย่างหนึ่งที่อาจพบปัจจัยแทรกได้ทุกเวลา

ตอนวางแผนเชิงธุรกิจ ใครจะไปรู้ว่าสักวันเราต้องมานั่งต่อสู้กับศัตรูที่เหนือชั้นกว่าเรามาก คือ "เชื้อโรค"

ศัตรูตัวร้ายโควิด ที่เริ่มคุกคามมาตั้งแต่ปี 2020 ทำลายแผนการมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแผนการทางธุรกิจ การศึกษา การเงิน ระบบทางสังคม วิถีชีวิต ค่านิยม แต่เชื้อโรคยังไม่สามารถทำลายความคิดของเราได้

การวางแผนไม่จำเป็นต้องเป็นการขยายกิจการให้ใหญ่ขึ้น แต่การขยายเพื่อเติบโตสามารถทำได้โดย การวางแผนในเชิงลึกขึ้น เข้าใจองค์กร และความเป็นไปของสถานการณ์ให้ดีขึ้น และปัญหาได้รอบด้านขึ้น

หากบริษัทคุณคือ บริษัทเล็ก ๆ ที่มีพนักงานอยู่ 2-3 คน หรือ 20-40 คน หรือแม้แต่บริษัทคุณมีแค่ตัวคุณและ

แลปท็อปเล็ก ๆ ของคุณ ขนาดที่แท้จริงตามการใช้งานคือ เป้าหมายสำคัญที่บริษัทควรมี

เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกิดขึ้น สิ่งรอบข้าง คนรอบตัว อาจแก้ไขไม่ได้อย่างที่คุณคาดหวัง แทนที่จะนั่งรอการเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยรอบข้าง เปลี่ยนจากตัวคุณเองไม่ดีกว่าหรือ

นั่นคือ การเริ่มต้นในสิ่งที่จะทำ ถ้ามีแผนการจะทำอะไร ให้ "ทำ" โดยใช้ความเล็กกะทัดรัดขององค์กรให้เป็นประโยชน์

เราไม่จำเป็นต้องใหญ่เข้าว่า หากความสามารถ กำลังคน ทรัพยากรต่าง ๆ ไม่พร้อม
ความเล็กไม่ใช่บันไดขั้นแรก เพราะในบางสถานการณ์ ความเล็กคือเป้าหมายของการก้าวไปสู่บันไดขั้นสุดท้ายด้วยซ้ำ

การเติบโตทางธุรกิจไม่จำเป็นต้องหมายถึง มีขนาดบริษัทใหญ่ขึ้น เพิ่มสาขามากมาย หรือเพิ่มกำลังคน

แต่การเติบโต คือ ความลึก และเข้าใจปัญหาแทบทุกแง่มุมในสิ่งที่ตัวเองทำซ้ำ ๆ มาเป็นสิบ ๆ ปี

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน คือ บริษัท เครกลิสต์ (Craigslist) ที่เป็นบริษัทออนไลน์ ในจำนวนพนักงาน 12 คน สามารถสร้างรายได้สิบล้านเหรียญต่อปี

การวางแผนทางธุรกิจอย่างละเอียด ไม่จำเป็นหากเราวันนี้ยังไม่สามารถตอบตัวเองได้ว่า ทำไมเราต้องทำธุรกิจนี้ ทำไมเราต้องเหนื่อยยากแทบตายเพื่อจะปกป้องรักษาธุรกิจของคุณไว้ หากมันไม่ได้มาจากใจของคุณ หากมันไม่สามารถทำให้ลูกค้าของคุณพูดว่า ชีวิตเค้าดีขึ้น เพื่อได้รู้จักธุรกิจของคุณ

อย่าไปยึดติด กับขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ทุกคนที่ทำธุรกิจ สิ่งที่ต้องการคือ กำไร นั่นแหละคือความอยู่รอดที่แท้จริง

ไม่ว่าจะขนาดเล็ก หรือใหญ่ หากสามารถดำรงธุรกิจได้ และได้กำไร ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจไม่แพ้กัน

ครูฮ้วง

--------------------------


ครูฮ้วง-เสาวลักษณ์ ลี้รุ่งเรืองพร เจ้าของสถาบัน Campus Genius Center ผู้สอนหลักสูตรติวเข้มเพื่อการสอบ SAT ด้วยแนวคิดแบบ Critical Thinking ที่ช่วยให้นักเรียนสามารถยื่นคะแนนเข้าเรียน และประสบความสำเร็จในการเรียนคณะอินเตอร์ทั้งในและต่างประเทศ