xs
xsm
sm
md
lg

คนไทยเครียด-ซึมเศร้าพุ่ง-โควิดซ้ำ ปี 63 ทำยอดฆ่าตัวตายเพิ่ม สสส. แนะวัยทำงานตั้งเป้าต้นปีมีสติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายพงษ์ศักดิ์ ธงรัตนะ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร สสส.
คนไทยเครียด-ซึมเศร้าพุ่ง-โควิดซ้ำ ปี 63 ทำยอดฆ่าตัวตาย เพิ่ม! สสส. แนะวัยทำงานตั้งเป้าต้นปีมีสติ ชี้ สติเป็นพื้นฐานความสุข 8 ประการในที่ทำงาน ดัน เส้นทางแห่งสติเป็นวัฒนธรรมองค์กร-โรงพยาบาล-สถานศึกษา ชวนเรียนรู้-ฝึกอบรม-ใช้สติสร้างสมดุลชีวิต ลดเครียดรับปีใหม่


วันนี้  (17 มกราคม 2565)  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดเสวนาออนไลน์ “Happy Workplace Talk Series : การใช้สติของมนุษย์เงินเดือนกับชีวิตวิถีใหม่” นายพงษ์ศักดิ์ ธงรัตนะ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร สสส. กล่าวว่า จากรายงานสุขภาพคนไทย ปี 2564 พบคนไทยมีความเครียดสูง นำไปสู่อัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จอยู่ที่ 7.8 คนต่อแสนประชากร หรือกว่า 5,000 คน ในปี 2563 ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทบการดำเนินชีวิตของคนไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะคนวัยทำงาน สถานประกอบการจำนวนมากยังคงใช้มาตรการให้พนักงานทำงานอยู่ที่บ้าน ถือเป็นสาเหตุหนึ่งที่นำไปสู่ปัญหาความเครียด เนื่องจากคนทำงานบางส่วนยังขาดการจัดการความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงาน ขาดปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ทำงานเกินเวลาปกติ ทำงานไม่ทัน ทำให้วิตกกังวล นำไปสู่ความเครียดสะสม เกิดภาวะซึมเศร้า กระทบความสัมพันธ์ หากไม่ได้รับการฟื้นฟูสุขภาวะด้านจิตใจที่เหมาะสม อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาว เสี่ยงต่อการทำร้ายตัวเอง หรือฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น

นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า สสส. เร่งสร้างเสริมสุขภาวะด้านจิตใจคนวัยทำงาน โดยริเริ่มโครงการสร้างสุขและจิตสำนึกด้วยโปรแกรมสติในองค์กร มุ่งสร้างเสริมสุขภาวะด้านจิตใจและปัญญา ผ่านแนวคิดความสุข 8 ประการ หรือ Happy 8 ที่ผ่านมา มีการจัดอบรมเรื่องสติภายในองค์กรทั่วประเทศ แล้วกว่า 70 แห่ง มีพนักงานแกนนำเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 150 คน ถือเป็นการยกระดับสถานประกอบการให้เป็นองค์กรสุขภาวะ มุ่งเน้นสร้างเสริมสุขภาวะทางปัญญาให้พนักงานมีสติและสมาธิก่อนทำงาน ทั้งนี้ สสส. มุ่งเป้าขยายพื้นที่ดำเนินโครงการให้ครอบคลุม 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ สถานประกอบการภาคเอกชน โรงพยาบาล และสถานศึกษา


นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษาโครงการสร้างสุขและจิตสำนึกด้วยโปรแกรมสติในองค์กร สสส. กล่าวว่า สติถือเป็นทักษะสำคัญในการพัฒนาองค์กร หากมีสติจะช่วยพัฒนาสมาธิ ไม่เครียด มีสุขภาพที่ดี ไม่มีหนี้สิน มีน้ำใจ สังคมและสภาพแวดล้อมดี มีครอบครัวที่อบอุ่น และมีความมั่นคงก้าวหน้าในการทำงาน หากคนทำงานมีสติจะช่วยส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ จุดประกายแนวคิดหรือนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สำคัญการมีสติในการสื่อสาร พูดจากันด้วยความระมัดระวัง ส่งผลให้ความสัมพันธ์ของคนทำงานในองค์กรดีขึ้น นำไปสู่การพัฒนาสุขภาวะในองค์กร

“ในเดือนมกราคม 2565 ถือเป็นโอกาสที่ดีของคนไทยในการตั้งเป้าหมายใหม่ตั้งแต่ต้นปีผ่านเส้นทางแห่งสติ (MindFulness in Organizations) หลายคนเริ่มต้นด้วยการวางแผนที่จะมีสุขภาพที่ดี เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันตัวเองจากโรคอุบัติใหม่ จึงขอชวนคนทำงานมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาสุขภาวะทางปัญญา ด้วยการมีสติในการทำงาน โดยนำหลักการความสุข 8 ประการในที่ทำงาน หรือ Happy8 ของ สสส. มาใช้สร้างความสมดุลการทำงานกับการใช้ชีวิต เพื่อเสริมทักษะการมีสติที่ช่วยรับมือเมื่อเกิดวิกฤตในอนาคต” นพ.ยงยุทธ กล่าว

ดร.สรยุทธ รัตนพจนารถ ผู้ร่วมก่อตั้งธนาคารจิตอาสา และผู้อำนวยการร่วมโครงการวิถีพัฒนาจิต สสส.
ดร.สรยุทธ รัตนพจนารถ ผู้ร่วมก่อตั้งธนาคารจิตอาสา และผู้อำนวยการร่วมโครงการวิถีพัฒนาจิต สสส. กล่าวว่า ส่วนใหญ่เรามักมีความตั้งใจดีๆ ในโอกาสปีใหม่ (New Year’s Resolution) แต่ค่อยๆ ซาหรือยอมแพ้เลิกไป ทั้งที่เป็นความตั้งใจดีในการปรับปรุงตัวเองหรือทำงานให้ดีขึ้น เคล็ดลับทำความตั้งใจให้สำเร็จก็คือ 1. ยึดความตั้งใจไว้ (intention) ยิ่งเป็นเรื่องที่สำคัญ เป็นเป้าหมายเพื่อครอบครัว หรือเป็นความก้าวหน้าในงาน ก็จะยิ่งให้พลังแก่เรา มากกว่าเรื่องทั่วๆ ไป เช่น ทานให้น้อยลง 2. หมั่นเอาใจจดจ่อ (attention) เรียกได้ว่าเกาะติดกับเป้าหมาย ให้เวลาให้ความสนใจกับสิ่งที่เราได้เป้าตั้งใจไว้ รวมทั้งเทคนิคทีเด็ด ก็คือ "รู้สึกตัว" สังเกตตัวเองบ่อยๆ ให้รู้ว่ากำลังทำ/พูด/คิดอะไร และรับรู้อารมณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะดีใจ/เสียใจ/หงุดหงิด/เฉยๆ จะทำให้เราหนักแน่นเมื่อเจอกับสถานการณ์ยากและเริ่มท้อ ความรู้สึกตัวจะช่วยให้กลับมาโฟกัสกับงานและความตั้งใจได้ไวขึ้น

ทั้งนี้ สสส. จะจัดเสวนาออนไลน์ Happy Workplace Talk Series ต่อเนื่องเป็นประจำทุกเดือน ตลอดปี 2565 ติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.happy8workplace.com หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ Happy8Workplace และ สสส.


กำลังโหลดความคิดเห็น