“หมอยง” ชี้จำนวนผู้ที่ติดเชื้อ “โอมิครอน” ต่ำกว่าความเป็นจริงในทุกประเทศ เพราะตรวจโดยไม่ได้แยกสายพันธุ์ เชื่อ “โอมิครอน” ได้เข้ามาแทนที่ “เดลตา” น่าจะเกินร้อยละ 30 เปอร์เซ็นต์แล้ว
วันนี้ (8 ม.ค.) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว “Yong Poovorawan” ในประเด็นโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน จำนวนผู้ที่ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น โดยระบุข้อความว่า
ต้องยอมรับกันว่า ขณะนี้ โอมิครอน ได้ระบาดอยู่ในประเทศไทย และทั่วโลก
จํานวนผู้ติดเชื้อที่รายงาน โอมิครอน จะต่ำกว่าความเป็นจริงมาก ในทุกประเทศ เพราะการตรวจจะเป็นการตรวจเพียงว่าเป็นเชื้อ covid19 เท่านั้น ไม่ได้แยกสายพันธุ์
การตรวจแยกสายพันธุ์ จะต้องใช้วิธีการที่จำเพาะ เพื่อแยกว่าเป็นสายพันธุ์อะไร
ในต่างประเทศบางประเทศ ที่มีการตรวจเชื้อ covid19 ด้วยวิธี RT-PCR ตรวจยีนอื่นพบแต่ตรวจยีน S ไม่พบ ก็ถือว่า น่าจะเป็น โอมิครอน เพราะ การกลายพันธุ์ในยีน S ทำให้ตรวจไม่พบ
ในประเทศไทยการตรวจหาไวรัส covid19 เกือบทั้งหมดไม่ได้มีการตรวจยืน S ร่วมด้วย จึงไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้
การตรวจหาสายพันธุ์จึงจำเป็นต้องใช้วิธีการจำเพาะ ในการตรวจ หรือถอดรหัสพันธุกรรม
ตัวเลขแต่ละประเทศที่รายงานมา เป็นการตั้งใจตรวจหาสายพันธุ์ หลายคนเมื่อดูอันดับการตรวจพบแล้ว ประเทศไทยอยู่ในอันดับต้นๆ ก็ไม่ต้องแปลกใจ ความสามารถในการตรวจของเรามีความสามารถในการตรวจอยู่ในประเทศต้นๆ เช่นเดียวกัน
ดังนั้น ขณะนี้ การที่บอกว่าตรวจพบ 3,000 ราย ก็ไม่ใช่ตัวเลขที่แท้จริง ที่มีการระบาดด้วยสายพันธุ์ โอมิครอน เพราะมีผู้ป่วยอีกจำนวนมากกว่าหลายเท่าที่ไม่ได้ตรวจ เช่นเดียวกันในเกือบทุกประเทศจะเป็นแบบนั้น
การจะบอกได้ว่าขณะนี้การระบาดเป็นสายพันธุ์ โอมิครอน มากน้อยแค่ไหนจะต้องใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 มาตรวจ แล้วดูอัตราเปอร์เซ็นต์ในการพบ โอมิครอน กับสายพันธุ์เดลตา มากกว่า
ขณะนี้ทางศูนย์กำลังทำอยู่ แต่ความสามารถของทางศูนย์ คงทำได้เฉพาะในกรุงเทพฯและปริมณฑลเท่านั้น อัตราการตรวจพบ โอมิครอน ที่ทำอยู่คงจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป ซึ่งขณะนี้เชื่อว่า โอมิครอน ได้เข้ามาแทนที่เดลตาเป็นจำนวนมากแล้วน่าจะเกินร้อยละ 30 เปอร์เซ็นต์แล้ว