xs
xsm
sm
md
lg

กรมสุขภาพจิต ชวนประชาชนใช้ความหวังและพลังใจ พร้อมส่งต่อสู่คนรอบข้าง ต้านภาวะซึมเศร้าช่วงปีใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมสุขภาพจิต ชวนประชาชนใช้ความหวังและพลังใจ พร้อมส่งต่อสู่คนรอบข้าง ต้านภาวะ New Year’s Blues หรือ ภาวะซึมเศร้าช่วงปีใหม่ เน้นให้หมั่นสำรวจอารมณ์ของตนเองและคนรอบข้าง

วันนี้ (30 ธ.ค.) กรมสุขภาพจิต เชิญชวนประชาชนสร้างพลังด้านสุขภาพจิตและตระหนักถึงภาวะ “New Year’s Blues”
หรือ ภาวะซึมเศร้าช่วงปีใหม่ เน้นให้หมั่นสำรวจอารมณ์ของตนเองและคนรอบข้าง ทั้งในระหว่างช่วงหยุดยาวและหลังหยุดยาว ประเมินตนเองเชิงบวก ใช้เวลาที่มีคุณภาพกับครอบครัว หรือติดต่อสื่อสารคนใกล้ชิดที่อยู่ไกล ตั้งเป้าหมายสำหรับปีหน้าอย่างเหมาะสม และส่งต่อความหวังและความปรารถนาดีถึงคนรอบข้าง

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากการสำรวจในกิจกรรม “วัดใจ” ในระบบ Mental Health Check In โดยกรมสุขภาพจิต พบว่า ในช่วงเดือนธันวาคม 2564 ประชาชนมีความเครียดสูงร้อยละ 5.24 และมีความเสี่ยงซึมเศร้าร้อยละ 6.72 ซึ่งมีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ประชาชนมีความเครียดสูงร้อยละ 8.41 และมีความเสี่ยงซึมเศร้าร้อยละ 10.60 แต่สถิติดังกล่าวของเดือนธันวาคมนี้ ยังไม่รวมช่วงวันหยุดยาวขึ้นปีใหม่ ซึ่งในเทศกาลปีใหม่นั้นเป็นช่วงที่กรมสุขภาพจิตให้ความสำคัญและเฝ้าระวังด้านสุขภาพจิตของประชาชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากในช่วงวันหยุดยาวปีใหม่นี้ แม้คนส่วนใหญ่จะมีความสุขเพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่เทศกาลรื่นเริง แต่คนจำนวนหนึ่งจะเริ่มทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตลอดปีที่ผ่านมา หรือได้รับฟังข่าวสารที่มีการสรุปเหตุการณ์ต่าง ๆ ในช่วงปีที่ผ่านมาและเกิดความผิดหวัง กังวล หรือซึมเศร้าขึ้นได้  ทั้งนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในช่วงปีที่ผ่านมานั้น อาจทำให้หลายคนเกิดความเครียดเรื้อรังสะสม รวมถึงมีอุปสรรคปัญหาด้านต่าง ๆ เกิดขึ้น ทั้งสุขภาพกาย ปัญหาจากการทำงาน และปัญหาความสัมพันธ์กับผู้อื่น หลายคนไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ตามสิ่งที่ตนเองเคยคาดหวังและวางแผนไว้ ก่อให้เกิดความรู้สึกล้มเหลว ความทรงจำด้านลบ การสูญเสีย และความรู้สึกที่ไม่ดีต่อตนเอง นอกจากนั้นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิตอยู่เดิม อาจจะมีความเสี่ยงต่อปัญหาด้านสุขภาพจิตเพิ่มยิ่งขึ้นได้ในช่วงนี้ เช่น คนที่มีภาวะซึมเศร้าอยู่เดิมอาจมีอาการเศร้ารุนแรงมากขึ้น และช่วงวันหยุดเทศกาลไม่สามารถสร้างความสุขให้ได้

นอกจากนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ยังไม่สิ้นสุดลง ย่อมเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางไปพบคนในครอบครัว หรือไม่ได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันในช่วงปีใหม่ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างมีข้อจำกัด อาจส่งผลให้เกิดความเครียด ความรู้สึกเหงา และความเศร้าที่มากขึ้นได้อีกด้วย
ภาวะ “New Year’s Blues” หรือ ภาวะซึมเศร้าช่วงปีใหม่ เป็นภาวะที่กรมสุขภาพจิตอยากให้คนไทยตระหนักถึงในช่วงนี้ แม้ไม่ได้เป็น
การวินิจฉัยทางจิตเวช แต่เป็นภาวะทางสุขภาพจิตที่ได้รับการพูดถึงมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยผู้ที่กำลังประสบภาวะนี้ในช่วงหยุดยาววันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ จะมีอาการได้แก่ ซึมเศร้า เบื่อหน่าย ท้อแท้ รู้สึกไร้ค่า รู้สึกสิ้นหวัง ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง มีปัญหาเรื่องการกินหรือการนอน ในบางรายอาจมีความคิดไม่อยากอยู่หรืออยากทำร้ายตัวเองได้ ซึ่งอาการต่าง ๆ เหล่านี้อาจเกิดต่อเนื่องไปยังช่วงต้นเดือนมกราคมแม้สิ้นสุดวันหยุดยาวไปแล้วก็ตาม

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมสุขภาพจิตอยากรณรงค์ให้คนไทยทุกคนช่วยกันป้องกันตนเองและคนใกล้ชิดไม่ให้เข้าสู่ภาวะ New Year’s Blues โดยสามารถทำได้ โดยหมั่นสำรวจอารมณ์ของตนเองและคนรอบข้าง ทั้งในระหว่างช่วงหยุดยาวและหลังหยุดยาว หรือ ประเมินตัวเองผ่าน www.วัดใจ.com และมีการมองเห็นคุณค่าของตนและสิ่งดี ๆ ที่ตนเองได้ทำไว้ในช่วงที่ผ่านมา เช่น การมองหาสิ่งที่ตนเองได้เรียนรู้ พลังใจที่เกิดขึ้นในตนเอง การไม่ยอมแพ้ต่อปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ รวมถึงการแบ่งปันและช่วยเหลือผู้อื่นในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ควรใช้เวลาที่มีคุณภาพกับครอบครัวหรือคนสนิท หากไม่สามารถเดินทางไปพบคนในครอบครัวหรือเพื่อนฝูงได้ ก็สามารถเรียนรู้วิธีใช้ช่องทางออนไลน์ในการเชื่อมความสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้างเพิ่มเติม

ทั้งนี้ หากรู้สึกว่าตนเองอาจมีภาวะ New Year’s Blues สามารถเริ่มปรึกษาพูดคุยกับใครสักคน เช่น คนใกล้ชิดหรือสมาชิกในครอบครัว นอกจากนั้นสามารถติดต่อขอคำปรึกษาจากสายด่วนสุขภาพจิต 1323 หรือ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่ LINE@1323forthai หรือ ปรึกษาจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้คำแนะนำที่เหมาะสมต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น